หมวดหมู่: ท่องเที่ยว

         จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ส  สิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดในนครรัฐวาติกันนั้นคงหนีไม่พ้นมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ส  แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสามารถที่จะไปชมความสวยงามได้

นอกเหนือจากมหาวิหารจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ส  นั่นก็คือตรงบริเวณลานกว้างที่เราเรียกกันว่าจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ส  นั่นเองซึ่งลานกว้างนี้จะอยู่ตรงบริเวณด้านหน้าของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์เป็นร้านขนาดใหญ่ที่โดยปกติแล้วจะใช้ในการประกอบพิธีการสำคัญสำคัญเกี่ยวกับทางด้านศาสนาคริสต์

          ตรงบริเวณจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ส    แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงประมาณปีค.ศ. 1656  ซึ่งผู้ที่ออกแบบจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์นี้นั้นจะเป็นนักออกแบบที่ชื่อว่า  Gian Lorenzo Bernini   เนื่องจากว่าตอนที่สร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์นั้นไม่ได้มีการสร้างจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ส แห่งนี้เพิ่งมาสร้างภายหลังโดยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 7 เป็นคนสั่งให้สถาปนิกได้มีการออกแบบและสร้างขึ้นมา

       เนื่องจากว่าในขณะนั้นพระองค์ได้ทรงรับเลือกให้เป็นพระสันตะปาปา จึงได้มีการสร้างเพื่อให้ตรงบริเวณจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์สแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่สามารถใช้สอยเกี่ยวกับเรื่องของกิจกรรมทางศาสนาคริสต์ได้โดยหวังว่าตรงร้านบริเวณกว้างแห่งนี้นั้นเมื่อมีการทำกิจกรรมเกี่ยวกับทางด้านศาสนาแล้วประชาชนของนครรัฐวาติกันก็จะสามารถเห็นการทำกิจกรรมต่างๆได้นั่นเอง

        ซึ่งพื้นที่ตรงนี้สามารถรองรับผู้คนเป็นจำนวนมากในการที่จะมาร่วมพิธีกรรมต่างๆได้เช่นเดียวกันอย่างไรก็ตามการก่อสร้างจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์สนั้นก็ใช้ระยะเวลาก่อสร้างนานพอสมควรเช่นเดียวกันเพราะต้องใช้ระยะเวลานานถึง 12 ปีเลยทีเดียวกว่าจะสร้างเสร็จและเปิดให้ใช้งานได้ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์แห่งนี้จะเห็นได้ว่าจะมีเสาขนาดใหญ่และมีความสูงมากๆตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงบริเวณณตรงกลางของจตุรัส  โดยสาวแห่งนี้มีชื่อว่าเสาโอเบลิสก์ 

         เสาร์นี้ถูกสร้างขึ้นมาจากทองสัมฤทธิ์และมีการทาสีบรอนซ์เอาไว้ซึ่งความสูงของเสานี้นั้นสูงถึง 20 5.5 เมตรเลยทีเดียวที่สำคัญเสาร์นี้ถูกระบุเอาไว้ว่าเป็นสาวที่ใช้สำหรับในการตรึงกางเขนของนักบุญเปโดร หรือนักบุญปีเตอร์นั่นเองและที่สำคัญพระองค์ก็เสียชีวิตตรงบริเวณที่เสาต้นนี้ด้วย

          นอกจากนี้บริเวณด้านรอบของตัวเสาร์ยังมีเสาหินซึ่งมีความสูงประมาณ 20 เมตรอีกหลายสิบต้นถูกสร้างขึ้นเอาไว้ล้อมรอบอกเสาต้นใหญ่ต้นนี้อีกครั้งหนึ่งและแน่นอนว่าด้านบนของเสาต้นเล็กๆนี้ก็มีการปั้นรูปปั้น

ซึ่งเป็นรูปปั้นของนักบุญเอาไว้ยืนอยู่บนเสาซึ่งมองดูแล้วเป็นภาพที่สวยงามและมีมนต์ขลังมากเลยทีเดียวนอกจากนี้ตรงบริเวณจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ยังมีน้ำพุซึ่งมีการออกแบบสวยงามมากเรียกได้ว่าที่นี่เป็นสัญลักษณ์สถาปัตยกรรมที่มีความสวยงามมากที่สุดเลยก็ว่าได้โดยลักษณะของการออกแบบนั้นมีความคล้ายคลึงกับสิ่งก่อสร้างในกรุงโรมเลยทีเดียว 

สนับสนุนโดย.    หวยออนไลน์บาทละ 950

           สำหรับวันนี้เราจะพาไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายซึ่งโดยปกติแล้วถ้าหากพูดถึงเชียงรายชื่อว่าทุกคนมักจะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติ

หรือการไปเที่ยวภูเขารวมถึงการไปชื่นชมความงดงามของดอกไม้ที่มักจะมีการปลูกขึ้นบนเนินเขาและเชียงรายยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศิลปวัฒนธรรมวัดโบราณมากมาย

      อย่างไรก็ตามสำหรับการท่องเที่ยวที่เชียงรายที่จะพาไปเที่ยวกันในวันนี้นั้นจะแตกต่างจากการเที่ยวเดิมๆที่ผ่านมาซึ่งการท่องเที่ยวในครั้งนี้จะเน้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเกี่ยวกับเรื่องของงานศิลปะโดยวันนี้เราจะไปเที่ยวที่ขัวศิลปะซึ่งที่นี่นั้นจะมีการนำภาพต่างๆที่เกี่ยวกับศิลปะมาจัดแสดงมากมายเต็มไปหมดเรียกได้ว่าถ้าหากใครเป็นคนที่ชื่นชอบงานศิลปะแล้วเราก็ไม่ควรพลาดที่จะไปเที่ยวที่ขัวศิลปะแห่งนี้กันเลยทีเดียว

         สำหรับที่นี่บรรดากลุ่มศิลปินทั้งหลายที่เป็นคนในพื้นที่ของจังหวัดเชียงรายโดยรวมตัวกันก่อตั้งขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งของศิลปะขึ้นมานั้นก็เพราะว่าต้องการที่จะให้ที่นี่เป็นจุดรวมของการนำศิลปะออกมาเผยแพร่ให้กับคนที่ชื่นชอบศิลปะนั้นได้เห็นผลงานของศิลปินซึ่งที่มีการสร้างสรรค์ผลงานออกมามากมาย

           โดยนำผลงานนั้นมาจัดแสดงรวมกันเพราะถ้าหากว่าไม่มีการเตรียมสถานที่ที่มีการนำผลงานมารวมกันก็อาจจะทำให้ผลงานของศิลปินเหล่านั้นกระจัดกระจายไปตามจุดต่างๆภายในจังหวัดเชียงรายซึ่งคนที่สนใจ

เกี่ยวกับเรื่องของงานศิลปะนั้นจะหาดูได้ยากดังนั้นจึงได้มีการสร้างขัวศิลปะขึ้นมาเพื่อที่จะได้ให้เป็นจุดศูนย์รวมในการที่ศิลปินทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ได้เอาผลงานของตนเองมาอวดให้คนได้ยลโฉมกันนั่นเอง 

         ภายในอาคารนั้นจะมีการแบ่งออกเป็นโซนต่างๆเพื่อให้นักท่องเที่ยวนั้นได้เพลิดเพลินกับผลงานของศิลปะของศิลปินทั้งหลายโดยจะมีการแบ่งออกเป็นห้องสำหรับเอาไว้เสวนาพูดคุยกันสำหรับคนที่อยากจะขอความคิดเห็นเกี่ยวกับผลงานด้านศิลปะ

และยังมีห้องสอบการแสดงละครและดนตรีรวมถึงยังมีโซนที่จัดเป็นนิทรรศการนำภาพวาดมาแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันและยังแบ่งออกเป็นโซนค่ายศิลปะรวมถึงยังมีห้อง workshop ให้นักท่องเที่ยวที่สนใจอยากจะลองทำ workshop ดูได้มีการแสดงฝีมือซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการให้คำแนะนำ

            นอกจากนี้ภายในขัวศิลปะนั้นยังมีการแบ่งโซนที่เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มเอาไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ได้มีการมาเที่ยวที่นี่แล้วอาจจะหิวหรืออยากจะนั่งพักผ่อนชิวๆหลังจากที่เดินชมผลงานด้านศิลปะแล้ว ดังนั้นที่นี่จึงเป็นสถานที่ทอ่งเทียวอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจมากทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย   แจกสูตรหวยยี่กี

           ที่จังหวัดกาญจนบุรีมีชุมชนเล็กๆชุมชนหนึ่งซึ่งอยู่ในเขตของอำเภอปิล็อก    โดยอำเภอนี้อยู่ไกลออกจากตัวเมืองออกมาซึ่งเมื่อช่วงราวปีพ.ศ 2483 ที่อำเภอปิล็อกแห่งนี้ได้มีการตั้งเหมืองแร่   ชื่อว่าเหมืองปิล็อก    โดยที่นี่นั้นถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นอุตสาหกรรมเหมืองแร่ดีบุกซึ่งในสมัยก่อนที่เริ่มทำนั้นที่นี่เจริญรุ่งเรืองอย่างมากเลยทีเดียว

          สำหรับเหมืองปิล็อกนั้นเคยเจริญรุ่งเรืองอยู่เพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้นหลังจากนั้นความรู้เรื่องก็สิ้นสุดลงโดยประมาณปีพุทธศักราช 2528 เนื่องจากในช่วงเวลานั้นราคาแร่ทั่วโลก  มีราคาที่ตกต่ำลง  ไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจในการทำเหมืองได้มากนักดังนั้นนับตั้งแต่นั้นมาชุมชนแห่งนี้จึงเงียบเหงาชาวบ้านจึงปิดเหมืองแร่และไม่ได้ทำเหมืองแร่กันอีกเลย

          แต่ปัจจุบันนี้ชาวบ้านได้มีการตั้งชุมชนขึ้นมา ชื่อว่าชุมชนบ้านอีต่องซึ่งชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนขนาดเล็กและชุมชนแห่งนี้ถูกซ่อนตัวมานานหลายปีโดยชาวบ้านอาศัยอยู่กันเองและสร้างตลาดเล็กๆขึ้นมาเพื่อให้คนในชุมชนและนำของป่าและของ Handmade เป็นสินค้าทำมือมาขายทำให้ตลาดแห่งนี้เริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นหลังจากนั้นความเจริญรุ่งเรืองก็เข้ามาสู่ที่บ้านอีต่องอีกรอบหนึ่ง

        โดยความเจริญรุ่งเรืองในครั้งนี้ถูกนำมาในรูปแบบของสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติโดยชาวบ้านนั้นจะมีการสร้างที่พักเป็นแบบโฮมสเตย์เพื่อเอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสวยงามของป่าเขาความเป็นธรรมชาติที่ไม่มีความเจริญรุ่งเรืองของแสงสีเข้ามาเจือปน 

        ที่นี่เป็นสถานที่ชุมชนเล็กๆแต่ก็ดูแล้วอบอุ่นเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาที่บ้านอีต่องแห่งนี้นั้นจะเห็นเลยว่าบรรยากาศของที่นี่นั้นเป็นแบบชาวบ้านธรรมดาธรรมดาเพียงเท่านั้นโดยจะมีริมน้ำอบรมรอบหมู่บ้านเอาไว้และนักท่องเที่ยวก็ต้องเดินทางข้ามสะพานเข้าไปเรียนในตัวหมู่บ้านซึ่งสะพานแห่งนี้ตลอดสองฝั่งของรั้วกั้นสะพานจะมีการนำป้ายที่ระลึกมาติดเอาไว้โดยหากนักท่องเที่ยวคนไหนที่เดินทางมาเที่ยวที่บ้านอีต่องแล้วก็จะมีการเขียนชื่อตนเองใส่ใต้และนำมาผูกติดเอาไว้ทำให้สัญลักษณ์นี้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้านอีต่องในท้ายที่สุดนี้นั่นเอง 

        เนื่องจากว่าบ้านอีต่องนั้นอยู่ในเขตพื้นที่ห่างไกลจะอยู่ใกล้กับชายแดนดังนั้นหากนักท่องเที่ยวเดินทางไปเพียงแค่อีกประมาณซัก 2 กิโลเมตรคุณก็จะเจอจุดชมวิวซึ่งอยู่ใกล้กับตะเข็บชายแดนไทยพม่าเลยทีเดียวโดยจุดชมวิวดังกล่าวนั้นชื่อว่าเนินเสาธง  ซื้อที่นี่บอกได้เลยว่าบรรยากาศดีมากๆและอากาศเย็นมากเลยทีเดียว ดังนั้นหากใครอยากเห็นวิวของประเทศพม่าก็ลองมาเที่ยวที่นี่ดูนะคะ

 

สนับสนุนโดย    เว็บหวยออนไลน์ เชื่อถือได้

การที่เราอยากจะมีการไปท่องเที่ยวที่เกาะต่างๆ เราก็จำเป็นที่จะต้องมีเวลาในการหยุดที่ยาวนาน หรือไม่เราก็จำเป็นที่จะต้องมีเวลาในการพักผ่อนที่นาน เราจึงจะสามารถทำการไปท่องเที่ยวพักผ่อนกับเกาะที่มีความสวยงามได้

เพราะในในการที่เราได้มีเวลาในการหยุดพักผ่อนที่น้อย การเดินทางไปท่องเที่ยวถึงเกาะเราก็หมดเวลาที่ใช้สำหรับการไปท่องเที่ยว ไปกับการที่เราได้มีการเดินทางมาแล้ว แต่ก็จะมีเกาะที่เราสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ง่าย เพราะว่าจะเป็นเกาะที่อยู่ใกล้กับกรุงเทพ

และยังจะเป็นเกาะที่ได้มีความสวยงามน่าไปทำการท่องเที่ยวมากๆด้วย นอกจากนี้การที่เราได้มีการไปท่องเที่ยวในเกาะที่อยู่ใกล้กับกรุงเทพ เรายังจะสามารถลดเวลาในการเดินทาง และสามารถที่จะมีการทำกิจกรรมต่างๆเพิ่มได้มากขึ้นอีกด้วย โดยที่จะมีเกาะที่น่าไปท่องเที่ยว และเป็นเกาะที่มีความสวยงามน่าไปท่องเที่ยวดังนี้

1. เกาะสีชัง

จะเป็นเกาะที่ได้มีการมาท่องเที่ยวกันอยู่มากมาย ซึ่งเกาะสีชังจะเป็นเกาะที่ได้มีความเงียบสงบ เหมาะกับการที่เราจะมีการมาทำการท่องเที่ยวพักผ่อนมากๆ และในการท่องเที่ยวเรายังจะสามารถมีการท่องเที่ยวบนเกาะได้อยากหลายสถานที่ท่องเที่ยวมากๆ

เพราะว่าบนเกาะจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปมากมาย เช่น สถานที่ท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์มากมาย สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง สะพานอัษฎางค์ ที่เป็นสะพานที่เราสามารถทำการถ่ายรูปที่มีความสวยงามได้ เป็นต้น

2. เกาะขาม

เป็นเกาะที่ได้เป็นโครงการของอุทยานแห่งชาติที่เราจะสามารถทำการเดินทางไปท่องเที่ยวได้ และเกาะขามยังจะเป็นเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เหมาะกับการมาทำการท่องเที่ยวดำน้ำมากๆ

เพราะว่าเราจะสามารถทำการดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้น และน้ำลึก ซึ่งจะมีปะการังที่มีความสวยงามๆ และยังจะมีปลาที่มีความหายากมากมายให้เราสามารถทำการดำน้ำดูได้ แต่ในการท่องเที่ยวที่เกาะขามแห่งนั้น เราก็จำเป็นที่จะต้องมีการจำกัดในการท่องเที่ยวไว้ด้วย ซึ่งจะมีการท่องเที่ยวที่ไม่เกิน300คนต่อวัน

3. เกาะเสม็ด

เกาะเสม็ดจะเป็นเกาะที่ได้มีหาดอยู่มากมายที่อยู่ในหาดไม่ว่าจะเป็น หาดแก้ว อ่าวไผ่ อ่าวนวล อ่าวลุงดำ อ่าวลูกโยนเป็นต้น ซึ่งจะมีมากมายอยู่หลายหาดที่เราจะสามารถไปท่องเที่ยวได้

ซึ่งในการที่เราอยากที่จะมีการมาท่องเที่ยวพักผ่อนแบบสงบๆ หาดที่เราน่าไปท่องเที่ยวจะเป็น อ่าวไผ่ ที่เหมาะกับการที่เราได้มีการมาทำการท่องเที่ยวแบครอบครัวมากๆ ซึ่งน้ำทะเล และหาดของที่นี้นั้นจะเป็นทะเลที่ได้มีความสวยงามมากๆเลย ซึ่งน้ำทะเลของที่นี้จะมีคตวามใสมากๆเลย

 

สนับสนุนโดย.    กริลแอร์

สถานที่เที่ยวในแต่ละที่แล้วแต่เป็นสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจด้วยกันทั้งสิ้นแต่จะมีสถานที่ใดบ้างที่เราไปแล้วรู้สึกว่ามันสนุกและมันคลายเครียดได้ซึ่งสถานที่เหล่านั้นน่าจดจำยิ่งนักการที่เราไปเที่ยวสถานที่สวยๆก็ถือได้ว่าเราสามารถผ่อนคลายได้แต่ในเมื่อเรายังมีเรี่ยวแรงยังมีกำลังทำไมเราถึงไม่เชื่อสถานที่ที่มันน่าจดจำกว่านั้นล่ะเพราะถ้าเราอายุมากขึ้นบางสถานที่เราก็ไม่สามารถที่จะไปได้นะดังนั้นเราควรที่จะไปก่อนที่มันจะไม่สามารถไปได้

สถานที่สวยๆมีมากมายก็จริงแต่จะมีสถานที่ใดบ้างที่เราสามารถเดินทางขึ้นไปโดยที่เราจะมีเรื่องเล่าไว้ให้ลูกให้หลานได้ฟังกัน สถานที่ที่น่าสนใจต่างๆก็มีดังนี้ 

เขาช้างเผือกจังหวัดกาญจนบุรี 

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวผจญภัยอีกแห่งหนึ่งของไทยเรา โดยตั้งอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีและเป็นที่น่าสนใจมากค่ะอย่างยิ่งจะเห็นได้ว่าที่นี่นั้นถ้าหากคุณได้เดินทางไปคุณจะสัมผัสกับความสวยงามที่เป็นแนวธรรมชาติโดยรอบด้านซึ่งยังคงความที่เป็นธรรมชาติเหล่านี้ไว้ และความสมบูรณ์ของธรรมชาติตอนนี้ยังมีมากกว่า 80% อีกด้วย ถ้าหากคนใดที่ชื่นชอบสำหรับการเดินป่า และการปีนเขาแล้วเราก็จะต้องเดินทางมาที่นี่เพื่อเป็นการวัดใจของคุณให้ได้นะคะ

สำหรับการเดินทางขึ้นเขาช้างเผือกนั้นคุณจะต้อง เดินทางไปทางหมู่บ้านอีต่องซึ่งทางเข้าจะอยู่ทางนั้น โดยที่นี่อยู่ใกล้ๆกับเมืองปิล็อก เพราะถือได้ว่าถนนหนทางของที่นี่จะเป็นถนนที่สะดวกสบายที่สุดแล้วสำหรับการเดินทางไป แน่นอนหรอว่าการเดินทางบนเขาจะต้องมีทางคดชั้นบ้างแต่สำหรับทางถนนของที่นี่เส้นนี้มีคดชันบ้างแต่ไม่ได้มากเท่าไหร่นะ

เมื่อถึงจุดหมายที่จะจอดรถไว้แล้วก็ต้องทำการเดินทางเช้าเพื่อนกันไปที่เขาช้างเผือก โดยระยะทางเดินไปที่เขานั้นโดยประมาณแล้วเกือบ 9 กิโลเมตรด้วยกัน ซึ่งการเดินทางนี้จะเป็นการไล่ระดับตั้งแต่การเดินเท้าแบบราบจนเป็นการปีนป่ายเขา ระดับของมันจะสูงขึ้นตามชันเรื่อยๆจากคันน้อยๆไปถึงชันมากๆขึ้น

จะเป็นเส้นทางที่ไล่ไปตามเนินบนยอดเขาและจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะมีจุดที่เสียวที่สุดนั่นก็คือตรงสันคมมีด สถานที่นี้เป็นจุดใกล้สูงสุดของยอดเขา โดยจะมีลักษณะเป็นกิ่วที่สันเขา เมื่อเรามองไปทางด้านฝั่งซ้ายจะเห็นว่าเป็นเหว และถ้าหากเรามองไปฝั่งขวาก็จะเห็นเป็นหิวอีกเช่นกัน เรียกง่ายๆว่าสถานที่แห่งนี้กวาดเสียวแบบสุดๆไปเลยจนได้ขนานนามว่าสันวัดใจนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันออนไลน์ ฝากขั้นต่ำ 50

สำหรับโอ่งของที่นี่เป็นที่ที่มีชื่อเสียงโดยตั้งอยู่บนตำบลดอนตะโกอำเภอเมืองของจังหวัดราชบุรีสำหรับที่นี่เป็นสถานที่ที่ได้บ่งบอกถึงเรื่องราวต่างๆที่มีการสืบสานวิธีการปั้นโอ่งเราจะเห็นได้ว่าการเล่าเรื่องราวต่างๆเหล่านี้มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของเรา

สำหรับผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวแห่งนี้นั้นสามารถที่จะร่วมทำกิจกรรมต่างๆมาร่วมสนุกด้วยกันทำผลงานด้วยการฝึกฝีมือของตนเองได้ด้วย นอกจากนั้นแล้วยังมีกิจกรรมที่เป็นการวาดลวดลายลงบนโอ่ง สำหรับผู้ที่ชอบจินตนาการหรือศิลปะสามารถที่จะเดินทางไปเพื่อทำกิจกรรมต่างๆเหล่านี้ได้ที่นี่ 

แต่สำหรับบุคคลที่ไม่ค่อยชอบทางด้านศิลปะแต่โชคชอบในการถ่ายรูปก็สามารถเดินทางไปได้เช่นกันเพราะที่นี่มีมุมภาพเก๋ให้ถ่ายหลายจุดอยู่โดยเฉพาะมุมครูที่สามารถยืนถ่ายไปพร้อมกล่องเตาเผาโอ่งจำลองถ้าหากคุณพาเด็กๆมาก็สามารถที่จะเรียนรู้งานด้านศิลปะได้อีกแบบนึงนะแถมยังสถานที่แห่งนี้มาได้ทั้งครอบครัว 

บริเวณโดยรอบนั้นคุณสามารถเดินเยี่ยมชมได้โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆสำหรับบริเวณด้านนอกนั้นก็จะมีทั้งร้านค้าต่างๆไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารร้านกาแฟหรือการขายของที่ระลึกส่วนการถ่ายภาพหรือมุมถ่ายภาพก็มีด้วยเช่นกันเพราะว่าพวกเขาจะจัดสรรสถานที่ต่างๆให้คุณได้เลือกถ่ายภาพเพื่อเป็นความทรงจำที่ดีในการมาของที่นี่ 

สำหรับบุคคลที่ชื่นชอบเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นพิพิธภัณฑ์โอ่งก็จะมีค่าใช้จ่ายอยู่เช่นกันนะเพราะที่นี่เขาจะเรียกเก็บโดยที่ผู้ใหญ่จะคิดอยู่ที่ท่านละ 190 บาทแต่สำหรับเด็กๆจะคิดเพียงแค่ท่านละ 1 บาทเท่านั้นแต่สำหรับชาวต่างชาติก็จะจ่ายแพงกว่าคนไทยด้วยกันอยู่ที่ท่านละ 380 บาทหรือถ้าเป็นเด็กต่างชาติก็จะเสียคนละ 200 บาท 

แต่ถือว่าการจ่ายครั้งนี้เป็นการคุ้มมากพอสมควรเพราะภายในพิพิธภัณฑ์นั้นแบ่งออกเป็นห้องต่างๆนอกจากนั้นแล้วยังมีวิทยากรของสถานที่แนะนำให้คุณตามจุดต่างๆการเข้าชมในพิพิธภัณฑ์ที่นี่จะมี 2 รอบด้วยกันซึ่งจะเป็นรอบเช้าและรอบบ่าย 

ทางด้านภายในกิจกรรมเตาเผาองค์จำลองนั้นคุณสามารถเดินเข้าไปชมด้านในได้ด้วยนะแถมยังถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหรือหามุมเก๋ๆถ่ายได้อีกหลายมุมเรียกได้ว่าได้ทั้งความสวยความเก๋และยังได้ชื่นชมกับเรื่องราวอดีตอีกด้วย

สำหรับรายละเอียดในการเข้ากิจกรรมของที่นี่

สำหรับกิจกรรมที่ 1 เป็นการเข้าชมเรื่องราวหรือความเป็นมาของโอ่งของจังหวัดราชบุรีโดยผ่านสื่อการ์ตูนอนิเมชั่นซึ่งกิจกรรมนี้สามารถที่จะพาเด็กๆไปดูได้นะคะเพราะว่ามันเป็นการ์ตูนที่ไม่น่าเบื่อและเป็นประวัติศาสตร์ของที่นี่ที่ครบได้จัดทำขึ้นเพื่อให้ใครก็ตามทราบถึงเรื่องราวของพวกเขา

สำหรับกิจกรรมที่ 2 เป็นการเข้าชมพิพิธภัณฑ์โอ่ง 3 แผ่นดินรวมไปถึงต่างๆในยุคแรกๆจนถึงในยุคปัจจุบันของเราซึ่งการดำเนินเรื่องราวนั้นคุณจะสามารถที่จะเปรียบเทียบได้ว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงได้มากน้อยเพียงใด 

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันบอล ฝากขั้น ต่ํา 100 เปิดบัญชี

                ที่จังหวัดมุกดาหารไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวเพียงแค่วัดหรือว่าจุดชมวิวเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเน้นธรรมชาตินั้นก็มีด้วยเช่นเดียวกันโดยที่จังหวัดมุกดาหารนั้น

มีน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างก็นิยมเดินทางมาเที่ยวกันโดยน้ำตกแห่งนี้ชื่อว่าน้ำตกตาดโตนเป็นน้ำตกแห่งเดียวในจังหวัดมุกดาหารเลยก็ว่าได้ 

 

         สำหรับการเดินทางมาที่น้ำตกตาดโตนนั้นน้ำตกแห่งนี้จะอยู่ที่อำเภอหนองสูงโดยอยู่ในเขตพื้นที่บ้านโนนยาง   น้ำตกแห่งนี้หากเทียบกับน้ำตกของจังหวัดอื่นๆแล้วถือว่าไม่ใหญ่มากนักแต่เนื่องจากว่าที่จังหวัดมุกดาหารนั้น

มีน้ำตกที่นี่ที่เดียวดังนั้นที่นี่ถือว่าเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดมุกดาหารนั่นเองและเนื่องจากว่าเป็นน้ำตกแห่งเดียวในจังหวัดมุกดาหารจึงทำให้ตลอดทั้งปีนั้นมีนักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาเที่ยวที่น้ำตกแห่งนี้กันในปริมาณที่มาก

         สำหรับน้ำตกตาดโตนนั้นเป็นน้ำตกเพียงแค่ชั้นเดียวเท่านั้นแต่คุณสามารถเดินทางมาเที่ยวที่น้ำตกแห่งนี้ได้ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูไหนก็ตามเพราะจะมีน้ำไหลให้เล่นได้ตลอดทั้งปีเลยทีเดียวโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นในช่วงของหน้าฝนแล้วก็น้ำตาไหลแรงมากๆลักษณะของน้ำตกแห่งนี้จะเป็นหินขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาเป็นชั้นๆ

แต่จำนวนชั้นนั้นความสูงเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นไม่ถึง 1 เมตรเลยด้วยซ้ำทำให้เวลาที่น้ำไหลลงมากระทบกับหินก็จะเห็นเป็นชั้นขนาดเล็กจึงนับได้ว่าน้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกเพียงแค่ชั้นเดียวไม่ได้มีความสูงมากแต่อย่างใดส่วนใหญ่แล้วจะเป็นลักษณะของน้ำไหลในพื้นที่ราบและน้ำไปกระทบโขดหินขนาดใหญ่ทำให้เกิดการเกษตรและเกิดภาพที่สวยงามขึ้นมา

         สำหรับข้อมูลเบื้องต้นของน้ำตกแห่งนี้จะมีความสูงเพียงแค่ 7 เมตรเท่านั้นที่สำคัญน้ำตกแห่งนี้จะมีลักษณะของแหล่งน้ำซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลงเล่นน้ำได้ด้วยความกว้างของน้ำตกนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 30 เมตรด้วยกันและพื้นที่บริเวณโดยรอบนั้นจะเป็นป่าสีเขียวเต็มไปหมดทำให้เวลามาเที่ยวที่น้ำตกแห่งนี้คุณก็จะมีที่หลบแดดและสามารถเล่นน้ำได้อย่างเพลิดเพลินโดยที่ไม่ต้องกลัวแดดเลยทีเดียว

        เนื่องจากน้ำตกแห่งนี้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติดังนั้นบรรยากาศของที่นี่จึงมีแต่ความสดชื่นและเย็นสบายน้ำก็จะใสสะอาดน่าเล่น ใครที่เดินทางมาเที่ยวที่น้ำตกแห่งนี้สามารถนำอาหารมานั่งปูเสื่อรับประทานเรียกว่ามาเปลี่ยนบรรยากาศในการกินอาหารและพักผ่อนที่นี่ได้อย่างเพลินเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันต่างประเทศ ถูกกฎหมาย