สกีซาฟารีของสวิตเซอร์แลนด์

สกีซาฟารี ด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิดนั้นทำให้พลาดฤดูแห่งการเล่นสกีไป การเล่นสกีนั้นเป็นสิ่งที่หลายๆคนนั้นคิดถึงและเฝ้ารอวันในการไปเล่นสกีอีกครั้ง และฤดูที่เหมาะแก่การเล่นสกีก็คือในช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่มีอากาศที่อบอุ่นและสดใส

เนื่องจากหิมะได้หายไปจากก้นหุบเขาแล้ว เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น กิจกรรมการเล่นสกีนั้นก็ได้กลับมาอีกครั้งและถ้าหากนึกถึงการเล่นสกี สวิตเซอร์แลนด์นั้นเป็นประเทศหนึ่งที่มีชื่อเสียงทางด้านการเล่นสกีอย่างมาก 

การผจญภัยบนภูเขาเริ่มต้นทันทีที่ได้บินไปยังเจนีวาหรือซูริกการเดินทางข้ามประเทศสวิสเซอร์แลนด์โดยรถไฟ ภูมิประเทศต่างๆก็สร้างความน่าประทับใจมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเห็นยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะบอกได้เลยว่ามีความสวยงามมากๆ

สำหรับสกีซาฟารีในสวิตเซอร์แลนด์นั้นมีด้วยกันหลายแห่ง แบ่งออกเป็น 4 Valléesและมีรีสอร์ททั้ง 6 แห่งที่ร่วมกันสร้างพื้นที่เล่นสกีอันกว้างใหญ่โดยมีพื้นที่ตั้งแต่เมือง Thyon ทางตะวันตกไปจนถึงเมือง Verbier ทางตะวันออก มีลานสกีและเส้นทางฟรีไรด์มากกว่า 400 กิโลเมตร

ภูมิภาควาเลที่ 4 วาเลเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตร เราสามารถนั่งรถๆฟและมองออกมานอกหน้าต่างก็จะเห็นได้ว่ามีวัวจำนวนมากที่ผลิตนมสำหรับชีสที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้นไม่เพียงวัวเท่านั้น

ที่เป็นวิวทิวทัศน์ที่น่าสนใจของสวิตเซอร์แลนด์แต่ยังมีเรือนกระจกขนาดใหญ่ สวนผลไม้ และไร่องุ่นที่กว้างขวาง เป็นสัญญาณที่ดีว่าอาหารและไวน์จะดีพอๆกับเล่นสกี

สำหรับรีสอร์ทของทางสกีซาฟารีนั้นก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันนื่องจากในสกีรีสอร์ทนั้นจะมีพื้นที่ที่ค่อนข้างห่างไกลจากตัวมืองทำให้ในการเดินทางที่จะออกไปนอกสกีรีสอร์ทนั้นอาจจะต้องใช้เวลาในการเดินทาง ทางสกีรีสอร์ทนั้นมองเห็นถึงปัญหาและตระหนักถึงความเป็นอยู่ที่ควรจะสะดวกสบาย

ในสกีรัสอร์ทนั้นจึงมีอาหาร เครื่องดื่มมากมายใก้เลือกสรร รวมถึงสระว่ายน้ำอุ่นทั้งในร่มและกลางแจ้งและสิ่งเหล่านี้เองก็ถูกยกให้เป็นเป็นอัญมณีล้ำค่าของที่พักที่มีทางเข้าออกด้วยสกีอันสวยงามแห่งนี้

ไม่เพียงเท่านี้ยังมีการให้บริการในการเช่าชุดต่างๆ   huaydee    ทั้งชุดเล่นสกี เสื้อผ้าที่ใช้ในการสวมใส่ทั่วไปและสินค้าอื่นๆอีกมากมาย

นอกจากนี้ยังมีการอำนวยความสะดวกในเรื่องของผู้ดูแลหรือการท่องเที่ยวในแนวเทือกเข้าที่น่าสนใจพร้อมไกด์สกี Amandus และ Donovan โดยการเดินทางนั้นจะเดินทางด้วยกระเช้ากอนโดลา กระเช้าลอยฟ้า

โดยพื้นที่ส่วนใหญ่นั้นจะเป้นลักษณะเนินลาดต่อเนื่องและเมื่อมาแล้วการเดินทางไปยังMont Fort ซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 3,330 เมตร เป็นสถานที่ที่ควรเดินทางไปสักครั้ง สำหรับคนนักสกีแน่นอนว่าสวิตเซอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คสำคัญที่ควรมาเยือนและเล่นสกีสักครั้ง

ความสะดวกสบายในการใช้จ่ายผ่านบัตรท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวมีการเปิดกว้างมากขึ้นในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยว การคมนาคม การใช้ภาษาผู้คน  จ่ายผ่านบัตรท่องเที่ยว   และรวมถึงการอำนวยความสะดวกสบายในการใช้จ่าย ซึ่งในสมัยก่อนนั้นการที่เราจะไปเที่ยวต่างๆประเทศ

เราจะต้องแลกเงินเพื่อใช้จ่ายยังประเทศนั้นๆ ทำให้เรานั้นต้องแบกรับความเสี่ยงในการถือเงินเพื่อการเดินทางและในบางประเทศก็มีการใช้สกุลเงินต่างๆออกในแต่ละภาคส่วนอีก ทำให้เรานั้นต้องมีการแลกเงินที่ค่อนข้างวุ่นวายทีเดียว

แต่เมื่อมีการพัฒนาและสามารถที่จะใช้บัตรท่องเที่ยวหรือที่เรียกว่า Travel Card นั่นเอง ถึงแม้ว่าในช่วงแรกๆนั้น บัตรอาจจะไม่รองรับการแลกเงินในทุกประเทสแต่ในปัจจุบันเจ้าของผู้ให้บริการบัตรท่องเที่ยวนี้นั้นก็พยายาที่จะรวบรวมสกุลเงินต่างๆ

เพื่อให้แลกและสามารถนำไปใช้จ่ายยังต่างประเทศได้ บัตรท่องเที่ยวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถให้บริการและทำให้การเดินทางนั้นมีความราบรื่นในการใช้จ่ายมากที่สุด

ไม่ต้องถือเงินสดให้เกิดความเสี่ยง อย่างที่กล่าวข้างต้นถ้าหากเรานั้นจะต้องถือเงินสดในจำนวนมากในการเดินทางท่องเที่ยวนั้นก็อาจจะทำให้เงินเกิดการสูญหายหรือการถูกขโมยได้ ดังนั้นแล้วบัตรท่องเที่ยวก็จะทำหน้าที่เป็นที่เก็บเงอนให้เรา

โดยในการไปเที่ยวเราก็สามารถที่จะใช้จ่ายผ่านบัตรไม่ว่าจะเป็นการรูดเพื่อจ่ายหรือเราก็สามารถที่จะไปกดเงินยังตู้ ATM ในต่างประเทศได้นั่นเอง

การเก็บออมเงิน ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเก็บออมเพื่อไปเที่ยวเป็นการสร้างความสะดวกและการรู้จักเก็บออมเพื่อการไปเที่ยวอย่างดีด้วย เพราะการแลกเงินเป็นสกุลเงินในต่างประเทศเมื่อเรารู้ว่าเรานั้นมีแพลนไปเที่ยวเราก็สามารถที่จะและเงินและเก็บไว้ในบัตรได้เลยก็ถือว่าเป็นข้อดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่อาจจะเก็บเงินไม่ค่อยอยู่

ความคุ้มค่าของค่าเงินในช่วงต่างๆ อย่างที่กล่าวไป เราสามารถที่จะซื้อเงินเพื่อเก็บออมไว้ได้ เราก็อาจจะเลือกซื้อในช่วงที่ราคาเงินนั้นมันมีเรทการขายที่ซื้อต่ำ ก็จะทำให้เรานั้นได้รับความคุ้มค่า

สิทธิประโยชน์ต่างๆมากมาย บัตรท่องเที่ยวเริ่มมีหลายเจ้ามากขึ้น ทำให้การแข่ขันการตลาดยิ่งสูง ทำให้บัตรท่องเที่ยวต่างๆนั้นก็มักจะมองสิทธิประโยชน์โดยเฉพาะประโยชน์ที่จะเกิดได้ในช่วงท่องเที่ยวนั้น ไม่ว่าจะเป็นการรับเงินคืน ส่วนลดการซื้อสินค้าต่างๆ รวมถึงสิทธิประโยชน์ในสนามบินต่างๆมากมายด้วย

รองรับมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก แน่นอนว่าเมื่อเรานั้นแลกเงินไปด้วยดรมราคาที่ดีและมีเงินไว้ในบัตรท่องเที่ยว การใช้จ่ายก็จะสามารถทำผ่านบัตรได้และเงินเหล่านี้นั้นก็จะสามารถได้ในต่างประเทศด้วย

 

สนับสนุนโดย.    หวยออนไลน์บาทละ 1000

ถ้าจะไปเที่ยวที่ประเทศไต้หวันควรไปช่วงไหนดี?

    สำหรับการเดินทางไปเที่ยวยังต่างประเทศนั้นเราจะต้องมีการวางแผนการเป็นอย่างดีเนื่องจากว่าการเดินทางไปต่างประเทศ ประเทศไต้หวัน ต้องใช้งบประมาณเยอะกว่าการเดินทางในประเทศไทยและถ้าหากว่าเราเสียเวลาในการเดินทางไปต่างประเทศเสียเงิน

ซื้อตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวที่ต่างประเทศแล้วต้องไปเจอกับสภาวะหรือสภาพภูมิอากาศที่ไม่สามารถออกไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆได้ก็คงจะทำให้เรานั้นรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

     ดังนั้นสิ่งที่เราจะทำก่อนจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศไม่ว่าจะประเทศไหนก็ตามก็คือควรที่จะศึกษาข้อมูลของประเทศนั้นๆที่เราจะเดินทางไปไม่ว่าจะเป็นด้านภูมิอากาศสถานที่ท่องเที่ยวหรือช่วงฤดูกาลไหนที่มีเทศกาลประเพณีและวัฒนธรรมเพื่อที่เราจะได้เลือกที่จะเดินทางไปตามความชอบเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของเรานั่นเอง  

อย่างเช่นถ้าเกิดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะมาเมืองไทยแล้วอยากมาเล่นสงกรานต์ก็จะต้องศึกษาว่าถ้าจะมาเที่ยวงานสงกรานต์ก็ต้องมาในช่วงเดือนเมษายนเหมือนกันเวลาที่เราไปเที่ยวต่างประเทศเราก็ต้องดูว่าเทศกาลที่เราอยากไปชมหรืออยากไปเที่ยวเล่นด้วยนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาไหนเพื่อที่เราจะได้ไปแล้วเจอกับเทศกาลประเพณีที่เราอยากจะไปร่วมกิจกรรมด้วย

         อย่างไรก็ตามถ้าหากว่าเราไม่ได้มีการวางแผนการไว้อย่างน้อยที่สุดเราก็ควรจะรู้ว่าไปช่วงไหนที่ฝนจะไม่ตกหรืออากาศจะไม่หนาวจนเกินไปไปช่วงไหนที่อากาศกำลังสดชื่นเย็นสบายและสถานที่ท่องเที่ยวกำลังสวยงาม สำหรับที่ประเทศไต้หวันนั้นจะแบ่งเป็นเมืองใหญ่ๆอยู่แค่ 2 เมืองเท่านั้น

ซึ่ง 2 เมืองนี้ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ของนักท่องเที่ยวซึ่งก็คือเมืองไทเปซึ่งที่นี่คือเมืองหลวงของไต้หวันส่วนอีกเมืองนึงนั้นก็คือเมืองไกลซองซึ่งเมืองนี้จะอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ

โดยถ้าเกิดว่านักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไต้หวันนั้นอากาศกำลังสดชื่นเย็นสบายเพราะโดยเฉลี่ยแล้วอุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 22-25 องศาเซลเซียสเท่านั้น

          ถ้าหากนักท่องเที่ยวมาในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิอาจจะต่ำลงลดลงไปต่ำถึง 14 องศาเซลเซียสก็ได้เช่นเดียวกันในแต่ละปีประเทศไต้หวันจะต้องเจอกับพายุไต้ฝุ่นดังนั้นนักท่องเที่ยวไม่ควรเดินทางไปเที่ยวไต้หวันช่วงประมาณเดือนกรกฎาคมไปจนถึงเดือนกันยายนจึงไม่เหมาะกับการเดินทางมาเที่ยวช่วงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะเจอปัญหาเรื่องของฝนตกน้ำท่วมได้ 

และฝนจะตกหนักมากที่สุดในช่วงเดือนมิถุนายน  อย่างไรก็ตามช่วงฤดูที่เหมาะกับการมาเที่ยวที่ไต้หวันมากที่สุดยังคงเป็นช่วงฤดูหนาวพระอุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 14-15 องศาและที่สำคัญจะมีดอกไม้ฤดูหนาวแบ่งบานตามแหล่งท่องเที่ยวมากมายเต็มไปหมด 

 

สนับสนุนโดย.    huaydee

ที่พักจังหวัดภูเก็ต บรรยากาศดีๆเหมาะกับการไปดูดวงอาทิตย์ตกมากๆ

บรรเทาอาการเหนื่อยล้ากับบรรยากาศ​ ที่พักจังหวัดภูเก็ต พักท่ามกลางทิวทัศน์ทัศนียภาพงามๆของสมุทรฝั่งอันดามัน กับบ้านพักที่งดงาม อากาศดี ดูดวงอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยสดงดงาม ของจ.ภูเก็ต ความโด่งดังในเรื่องการท่องเที่ยว

และก็เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มากไปด้วยสถานที่เที่ยว ของกินที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งทะเลฝั่งอันดามันที่สวยสดงดงามชนะใจนักเดินทางอีกทั้งคนประเทศไทย รวมทั้งชาวต่างประเทศ ซึ่งในภูเก็ตก็จะมีสถานที่พักผ่อนหรือที่พักที่น่าสนใจมากมายให้เราได้เลือกพัก เพื่อที่จะทำให้เราได้ผ่อนคลายในช่วงวันหยุดไปกับวิวที่สวยงาม และอยากที่จะอยากที่จะทำการชวนเพื่อนๆของเราไปทำการท่องเที่ยวชมพระอาทิตย์ตกกับที่พักที่มีบรรยากาศดีๆไปกับเพื่อนๆของเรา โดยที่จะมีที่พักที่น่าสนใจสถานที่ไหนกันบ้างดังนี้เลย

  1. The Shore at Katathani

โรงแรมสุดหรูระดับ 6 ดาว “The Shore at Katathani” โรงแรมสุดงามและมีความเป็นส่วนตัว สงบเงียบ และมีความโรแมนติกอย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยทิวทัศน์และวิวที่สวยของทะเลจังหวัดภูเก็ต ที่พักที่ตกแต่งสุดหรู และก็เรียบง่าย พร้อมอุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกแบบครบถ้วน และก็การบริการที่ดียอด ให้ท่านได้พักกันได้อย่างมาก

  1. The Naka Phuket

บ้านพักติดทะเลที่งดงามที่หาดทรายกมลา “The Naka Phuket” อากาศด้านในที่พักสุดร่มรื่น เงียบ สงบ มีความเป็นส่วนตัวสุดๆจากห้องเช่าก็สามารถเห็นทิวทัศน์วิวของสมุทรสีฟ้าครามงามมากมาย พร้อมสระว่ายน้ำศูนย์กลางให้ได้มาว่ายเล่น ดูวิวกันเพลิดเพลินๆ

  1. Kalima Resort & Spa

โรงแรมสุดหรูระดับห้าดาว “Kalima Resort & Spa” ตั้งอยู่บนเขา ให้ได้สัมผัสทิวทัศน์วิวที่สวยสดงดงามของทะเลจังหวัดภูเก็ต สมบูรณ์ไปด้วยอุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกแบบพร้อม สระว่ายน้ำอินฟินิตี้ที่โล่งแจ้ง ทิวทัศน์สมุทร พร้อมที่พักมากมายแบบ ให้ได้มานอนเล่น นอนชิล ดูบรรยากาศกันเพลิดเพลินๆ

  1. The SIS Kata

สะดุดตาด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์กับ “The SIS Kata” บ้านพักงามอากาศดี ที่มาพร้อมทั้งที่พักนานาประการต้นแบบให้ได้เลือกมานอนเล่น ดูทิวทัศน์ทิวภาพกันเพลิดเพลินๆตกแต่งที่พักด้วยโทนสีฟ้า สวยสดงดงาม เรียบง่าย พร้อมมุมพักให้ได้มานั่งคอยดูบรรยากาศงดงามและสวยๆในยามเย็น

  1. Crest Resort & Pool Villas

โรงแรมบรรยากาศธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยสีเขียว “Crest Resort & Pool Villas” เรียบง่าย หรูหรา และก็มีสไตล์ที่สะดุดตา ตั้งอยู่บนเนิน ให้ได้มานอนพัก ชิล ชิล ดูทิวทัศน์และวิวแบบ 240 องศา ท่ามกลางความสงบเงียบ รวมทั้งเป็นส่วนตัว

 

สนับสนุนโดย.  aesexy

The Peak สถานที่สำหรับชมวิวแบบ พาโนนาม่า ของ ฮ่องกง

      ที่ประเทศฮ่องกงมียอดเขาที่ชื่อวิคตอเรียเป็นยอดเขาที่มีสถานที่เอาไว้ชมวิวที่สวยที่สุดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆของประเทศนี่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นบรรยากาศของเมืองฮ่องกงแบบภาพ พาโนนาม่า ของ ฮ่องกง

เนื่องจากสถานที่ชมวิวแห่งนี้อยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดของเกาะเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศฮ่องกงสถานที่ที่ไม่พลาดก่อนจะเดินทางกลับประเทศของตนเองก็คือการมาเที่ยวที่เดอะพีค แห่งนี้นั่นเอง 

      เนื่องจากที่ The Peak อยู่บนยอดเขา

ดังนั้นเวลาที่จะเดินทางไปถึงบนยอดเพื่อไปชมวิวจำเป็นที่จะต้องเดินทางขึ้นไปด้านบนซึ่งมีรถรางเป็นพาหนะในการเดินทางบอยมะปรางนี้มีชื่อเรียกว่าพริกแถมซึ่งที่นี่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานเป็นรถรางที่เก่าแก่ที่สุดของโลกเพราะมีอายุมากกว่า 120 ปีแล้ว 

ระหว่างที่นั่งรถรางขึ้นไปข้างบนนั้นสามารถมองออกนอกหน้าต่างของรถรางจะเห็นวิวด้านนอกซึ่งมีทั้งวิวต้นไม้และวิวตึกรามบ้านช่องมากมายเต็มไปหมด  การเดินทางขึ้นไปบน The Peak ด้วยรถรางก็เป็นอีกหนึ่งบริการที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน 

     เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนสุดของยอดเขา สิ่งที่คุณจะเห็นถึงความยิ่งใหญ่อลังการนั้นก็คือ The Peak Tower ซึ่งที่นี่คืออีกหนึ่งความภาคภูมิใจของฮ่องกงเนื่องจากว่าเป็นอาคารที่มีความงดงามและแปลกตามีการก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ภาย

ในตัวอาคารจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวครบครันไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารร้านเครื่องดื่มหรือร้านขนมนอกจากนี้ยังสามารถที่จะออกมาชมวิวทิวทัศน์ตรงระเบียงได้ซึ่งจุดชมวิวตรงบริเวณระเบียงนี่เองที่ได้รับความนิยมอย่างมากโดยที่เรียกกันว่า Sky Terrace 428   

    สำหรับตัวอาคาร the Peak Tower จะมีลักษณะคล้ายกับครึ่งวงกลมโดยเป็นครึ่งวงกลมแบบหงายตั้งไปบนฟ้า  เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์นนักท่องเที่ยวสามารถที่จะชมวิวบน Sky Terrace  428 นี้ได้ 360 องศา

โดยสามารถที่จะมองมุมไหนก็ได้ก็จะเห็นความงดงามของอาคารสูงของเกาะฮ่องกงและวิวทะเลที่สำคัญที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับดูพระอาทิตย์ตกดินที่สามารถสร้างบรรยากาศโรแมนติกให้กับคู่รัก  เหมาะอย่างมากสำหรับการมาขอแต่งงานกันเลยทีเดียว 

     หากนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวที่ The Park รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนเพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกินวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและยังมีแกลอรี่ที่เอาไว้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของประวัติศาสตร์รถราง

หรือแม้แต่ใครอยากจะศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติ สามารถมาที่นี่แล้วเที่ยวได้อย่างจุใจเลยทีเดียว การมาเที่ยวที่  The Park นั้น หากต้องการเที่ยวให้หมดครบทุกจุด อาจจะต้องเสียเวลาอย่างน้อยครึ่งวันเลยทีเดียว กว่าจะเที่ยวครบ 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  wm gaming

Sagono Bamboo Forest ที่จังหวัดเกียวโต  ประเทศญี่ปุ่น 

        สำหรับใครที่รักธรรมชาติ  รักต้นไม้  ไม่ควรที่จะพลาดไปเที่ยวที่สถานที่ท่องเที่ยวที่จะแนะนำดังต่อไปนี้ซึ่งที่นี่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นโดยอยู่ในเมืองเกียวโต  โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาไปเที่ยวนี้คุณจะเจอกับความเขียวชอุ่มของต้นไม้ซึ่งที่นี่ก็คือป่าไผ่ซากาโนะนั่นเองหรือชาวญี่ปุ่นเรียกที่นี่ว่า Sagono Bamboo Forest  

    สำหรับ Sagono Bamboo Forest  นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่เมืองเกียวโตกันมากซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั้นจะต้องแวะมาถ่ายรูปที่ป่าไผ่แห่งนี้  เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงเมืองเกียวโตแล้ว

คุณสามารถเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองหลังจากนั้นก็แวะมาที่ปากไผ่ซากาโนะเพื่อมาทำการถ่ายรูปกับป่าไผ่ที่มีความสวยงามซึ่งที่นี่จะมีการทำเป็นอุโมงค์ทอดยาวให้นักท่องเที่ยวนั้นได้เดินเข้าไปในอุโมงค์ต้นไผ่

        ซึ่งจะมีการนำรูปถ่ายนั้นผูกติดกันเพื่อบดบังแสงแดดให้กับนักท่องเที่ยวโดยทางเดินจะมีการเทปูนสำหรับให้นักท่องเที่ยวนั้นเดินได้อย่างปลอดภัยสำหรับป่าไผ่แห่งนี้จะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 500 เมตรและแนะนำว่าเมื่อคุณมองไปทางด้านซ้ายและด้านขวาคุณก็จะเห็นต้นไผ่นั้นขึ้นสูงชะลูดมากมายเต็มไปหมด

     นอกจากนี้จะมีลมเย็นๆพัดมาอยู่ตลอดเวลาซึ่งระหว่างที่เดินผ่านอุโมงค์นั้นนักท่องเที่ยวจะได้ยินเสียงลมที่พัดผ่านลำไผ่ซึ่งคล้ายกับเสียงเพลงดังไพเราะมากเลยทีเดียวเรียกได้ว่าเป็นเสียงจากธรรมชาติที่จะสามารถช่วยให้คุณนั้นหายเครียด

และเพลิดเพลินในเวลาเดียวกันสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกชาติหากใครเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นยอมแวะมาเที่ยวที่เมือง เกียวโต  แล้วแวะมาสัมผัสธรรมชาติของป่าไผ่กันนั่นเอง

     อย่างไรก็ตามถ้าหากนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่ Sagono Bamboo Forest  แห่งนี้จะเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นนั้นมักจะมีการแต่งกายด้วยชุดกิโมโนมาถ่ายรูปตามมุมสวยๆของบริเวณป่าไผ่แห่งนี้เนื่องจากต้นไผ่กับคนญี่ปุ่นนั้นมีความเกี่ยวพันกันมาตั้งแต่ในสมัยโบราณซึ่งมีนิทานที่พูดถึงป่าไผ่และที่นี่จะมีการจัดงานเทศกาลทะนะบะตะซึ่งภายในงานนั้นจะเห็นสินค้าที่ผลิตมาจากต้นไผ่มากมายเต็มไปหมดเลยทีเดียว 

       สำหรับการเดินทางมาเที่ยวที่Sagono Bamboo Forest นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินทางมาเที่ยวที่นี่ได้ตลอดทั้งปีและการเดินทางมาเที่ยวที่นี่ก็สะดวกสบายเป็นอย่างมากเพราะปัจจุบันนี้มีรถไฟฟ้าที่สามารถพานักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อลงจากรถไฟฟ้าแล้วก็สามารถที่จะแวะเข้ามาที่ป่าไผ่แห่งนี้ได้เลย 

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟัง

จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ส  นครรัฐวาติกัน

         จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ส  สิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดในนครรัฐวาติกันนั้นคงหนีไม่พ้นมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ส  แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสามารถที่จะไปชมความสวยงามได้

นอกเหนือจากมหาวิหารจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ส  นั่นก็คือตรงบริเวณลานกว้างที่เราเรียกกันว่าจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ส  นั่นเองซึ่งลานกว้างนี้จะอยู่ตรงบริเวณด้านหน้าของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์เป็นร้านขนาดใหญ่ที่โดยปกติแล้วจะใช้ในการประกอบพิธีการสำคัญสำคัญเกี่ยวกับทางด้านศาสนาคริสต์

          ตรงบริเวณจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ส    แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงประมาณปีค.ศ. 1656  ซึ่งผู้ที่ออกแบบจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์นี้นั้นจะเป็นนักออกแบบที่ชื่อว่า  Gian Lorenzo Bernini   เนื่องจากว่าตอนที่สร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์นั้นไม่ได้มีการสร้างจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ส แห่งนี้เพิ่งมาสร้างภายหลังโดยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 7 เป็นคนสั่งให้สถาปนิกได้มีการออกแบบและสร้างขึ้นมา

       เนื่องจากว่าในขณะนั้นพระองค์ได้ทรงรับเลือกให้เป็นพระสันตะปาปา จึงได้มีการสร้างเพื่อให้ตรงบริเวณจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์สแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่สามารถใช้สอยเกี่ยวกับเรื่องของกิจกรรมทางศาสนาคริสต์ได้โดยหวังว่าตรงร้านบริเวณกว้างแห่งนี้นั้นเมื่อมีการทำกิจกรรมเกี่ยวกับทางด้านศาสนาแล้วประชาชนของนครรัฐวาติกันก็จะสามารถเห็นการทำกิจกรรมต่างๆได้นั่นเอง

        ซึ่งพื้นที่ตรงนี้สามารถรองรับผู้คนเป็นจำนวนมากในการที่จะมาร่วมพิธีกรรมต่างๆได้เช่นเดียวกันอย่างไรก็ตามการก่อสร้างจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์สนั้นก็ใช้ระยะเวลาก่อสร้างนานพอสมควรเช่นเดียวกันเพราะต้องใช้ระยะเวลานานถึง 12 ปีเลยทีเดียวกว่าจะสร้างเสร็จและเปิดให้ใช้งานได้ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์แห่งนี้จะเห็นได้ว่าจะมีเสาขนาดใหญ่และมีความสูงมากๆตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงบริเวณณตรงกลางของจตุรัส  โดยสาวแห่งนี้มีชื่อว่าเสาโอเบลิสก์ 

         เสาร์นี้ถูกสร้างขึ้นมาจากทองสัมฤทธิ์และมีการทาสีบรอนซ์เอาไว้ซึ่งความสูงของเสานี้นั้นสูงถึง 20 5.5 เมตรเลยทีเดียวที่สำคัญเสาร์นี้ถูกระบุเอาไว้ว่าเป็นสาวที่ใช้สำหรับในการตรึงกางเขนของนักบุญเปโดร หรือนักบุญปีเตอร์นั่นเองและที่สำคัญพระองค์ก็เสียชีวิตตรงบริเวณที่เสาต้นนี้ด้วย

          นอกจากนี้บริเวณด้านรอบของตัวเสาร์ยังมีเสาหินซึ่งมีความสูงประมาณ 20 เมตรอีกหลายสิบต้นถูกสร้างขึ้นเอาไว้ล้อมรอบอกเสาต้นใหญ่ต้นนี้อีกครั้งหนึ่งและแน่นอนว่าด้านบนของเสาต้นเล็กๆนี้ก็มีการปั้นรูปปั้น

ซึ่งเป็นรูปปั้นของนักบุญเอาไว้ยืนอยู่บนเสาซึ่งมองดูแล้วเป็นภาพที่สวยงามและมีมนต์ขลังมากเลยทีเดียวนอกจากนี้ตรงบริเวณจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ยังมีน้ำพุซึ่งมีการออกแบบสวยงามมากเรียกได้ว่าที่นี่เป็นสัญลักษณ์สถาปัตยกรรมที่มีความสวยงามมากที่สุดเลยก็ว่าได้โดยลักษณะของการออกแบบนั้นมีความคล้ายคลึงกับสิ่งก่อสร้างในกรุงโรมเลยทีเดียว 

สนับสนุนโดย.    หวยออนไลน์บาทละ 950

เที่ยวขัวศิลปะ จังหวัดเชียงราย 

           สำหรับวันนี้เราจะพาไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายซึ่งโดยปกติแล้วถ้าหากพูดถึงเชียงรายชื่อว่าทุกคนมักจะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติ

หรือการไปเที่ยวภูเขารวมถึงการไปชื่นชมความงดงามของดอกไม้ที่มักจะมีการปลูกขึ้นบนเนินเขาและเชียงรายยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศิลปวัฒนธรรมวัดโบราณมากมาย

      อย่างไรก็ตามสำหรับการท่องเที่ยวที่เชียงรายที่จะพาไปเที่ยวกันในวันนี้นั้นจะแตกต่างจากการเที่ยวเดิมๆที่ผ่านมาซึ่งการท่องเที่ยวในครั้งนี้จะเน้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเกี่ยวกับเรื่องของงานศิลปะโดยวันนี้เราจะไปเที่ยวที่ขัวศิลปะซึ่งที่นี่นั้นจะมีการนำภาพต่างๆที่เกี่ยวกับศิลปะมาจัดแสดงมากมายเต็มไปหมดเรียกได้ว่าถ้าหากใครเป็นคนที่ชื่นชอบงานศิลปะแล้วเราก็ไม่ควรพลาดที่จะไปเที่ยวที่ขัวศิลปะแห่งนี้กันเลยทีเดียว

         สำหรับที่นี่บรรดากลุ่มศิลปินทั้งหลายที่เป็นคนในพื้นที่ของจังหวัดเชียงรายโดยรวมตัวกันก่อตั้งขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งของศิลปะขึ้นมานั้นก็เพราะว่าต้องการที่จะให้ที่นี่เป็นจุดรวมของการนำศิลปะออกมาเผยแพร่ให้กับคนที่ชื่นชอบศิลปะนั้นได้เห็นผลงานของศิลปินซึ่งที่มีการสร้างสรรค์ผลงานออกมามากมาย

           โดยนำผลงานนั้นมาจัดแสดงรวมกันเพราะถ้าหากว่าไม่มีการเตรียมสถานที่ที่มีการนำผลงานมารวมกันก็อาจจะทำให้ผลงานของศิลปินเหล่านั้นกระจัดกระจายไปตามจุดต่างๆภายในจังหวัดเชียงรายซึ่งคนที่สนใจ

เกี่ยวกับเรื่องของงานศิลปะนั้นจะหาดูได้ยากดังนั้นจึงได้มีการสร้างขัวศิลปะขึ้นมาเพื่อที่จะได้ให้เป็นจุดศูนย์รวมในการที่ศิลปินทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ได้เอาผลงานของตนเองมาอวดให้คนได้ยลโฉมกันนั่นเอง 

         ภายในอาคารนั้นจะมีการแบ่งออกเป็นโซนต่างๆเพื่อให้นักท่องเที่ยวนั้นได้เพลิดเพลินกับผลงานของศิลปะของศิลปินทั้งหลายโดยจะมีการแบ่งออกเป็นห้องสำหรับเอาไว้เสวนาพูดคุยกันสำหรับคนที่อยากจะขอความคิดเห็นเกี่ยวกับผลงานด้านศิลปะ

และยังมีห้องสอบการแสดงละครและดนตรีรวมถึงยังมีโซนที่จัดเป็นนิทรรศการนำภาพวาดมาแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันและยังแบ่งออกเป็นโซนค่ายศิลปะรวมถึงยังมีห้อง workshop ให้นักท่องเที่ยวที่สนใจอยากจะลองทำ workshop ดูได้มีการแสดงฝีมือซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการให้คำแนะนำ

            นอกจากนี้ภายในขัวศิลปะนั้นยังมีการแบ่งโซนที่เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มเอาไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ได้มีการมาเที่ยวที่นี่แล้วอาจจะหิวหรืออยากจะนั่งพักผ่อนชิวๆหลังจากที่เดินชมผลงานด้านศิลปะแล้ว ดังนั้นที่นี่จึงเป็นสถานที่ทอ่งเทียวอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจมากทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย   แจกสูตรหวยยี่กี

เที่ยวชุมชนเก่าแก่ บ้านอีต่องที่จังหวัดกาญจนบุรี 

           ที่จังหวัดกาญจนบุรีมีชุมชนเล็กๆชุมชนหนึ่งซึ่งอยู่ในเขตของอำเภอปิล็อก    โดยอำเภอนี้อยู่ไกลออกจากตัวเมืองออกมาซึ่งเมื่อช่วงราวปีพ.ศ 2483 ที่อำเภอปิล็อกแห่งนี้ได้มีการตั้งเหมืองแร่   ชื่อว่าเหมืองปิล็อก    โดยที่นี่นั้นถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นอุตสาหกรรมเหมืองแร่ดีบุกซึ่งในสมัยก่อนที่เริ่มทำนั้นที่นี่เจริญรุ่งเรืองอย่างมากเลยทีเดียว

          สำหรับเหมืองปิล็อกนั้นเคยเจริญรุ่งเรืองอยู่เพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้นหลังจากนั้นความรู้เรื่องก็สิ้นสุดลงโดยประมาณปีพุทธศักราช 2528 เนื่องจากในช่วงเวลานั้นราคาแร่ทั่วโลก  มีราคาที่ตกต่ำลง  ไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจในการทำเหมืองได้มากนักดังนั้นนับตั้งแต่นั้นมาชุมชนแห่งนี้จึงเงียบเหงาชาวบ้านจึงปิดเหมืองแร่และไม่ได้ทำเหมืองแร่กันอีกเลย

          แต่ปัจจุบันนี้ชาวบ้านได้มีการตั้งชุมชนขึ้นมา ชื่อว่าชุมชนบ้านอีต่องซึ่งชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนขนาดเล็กและชุมชนแห่งนี้ถูกซ่อนตัวมานานหลายปีโดยชาวบ้านอาศัยอยู่กันเองและสร้างตลาดเล็กๆขึ้นมาเพื่อให้คนในชุมชนและนำของป่าและของ Handmade เป็นสินค้าทำมือมาขายทำให้ตลาดแห่งนี้เริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นหลังจากนั้นความเจริญรุ่งเรืองก็เข้ามาสู่ที่บ้านอีต่องอีกรอบหนึ่ง

        โดยความเจริญรุ่งเรืองในครั้งนี้ถูกนำมาในรูปแบบของสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติโดยชาวบ้านนั้นจะมีการสร้างที่พักเป็นแบบโฮมสเตย์เพื่อเอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสวยงามของป่าเขาความเป็นธรรมชาติที่ไม่มีความเจริญรุ่งเรืองของแสงสีเข้ามาเจือปน 

        ที่นี่เป็นสถานที่ชุมชนเล็กๆแต่ก็ดูแล้วอบอุ่นเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาที่บ้านอีต่องแห่งนี้นั้นจะเห็นเลยว่าบรรยากาศของที่นี่นั้นเป็นแบบชาวบ้านธรรมดาธรรมดาเพียงเท่านั้นโดยจะมีริมน้ำอบรมรอบหมู่บ้านเอาไว้และนักท่องเที่ยวก็ต้องเดินทางข้ามสะพานเข้าไปเรียนในตัวหมู่บ้านซึ่งสะพานแห่งนี้ตลอดสองฝั่งของรั้วกั้นสะพานจะมีการนำป้ายที่ระลึกมาติดเอาไว้โดยหากนักท่องเที่ยวคนไหนที่เดินทางมาเที่ยวที่บ้านอีต่องแล้วก็จะมีการเขียนชื่อตนเองใส่ใต้และนำมาผูกติดเอาไว้ทำให้สัญลักษณ์นี้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้านอีต่องในท้ายที่สุดนี้นั่นเอง 

        เนื่องจากว่าบ้านอีต่องนั้นอยู่ในเขตพื้นที่ห่างไกลจะอยู่ใกล้กับชายแดนดังนั้นหากนักท่องเที่ยวเดินทางไปเพียงแค่อีกประมาณซัก 2 กิโลเมตรคุณก็จะเจอจุดชมวิวซึ่งอยู่ใกล้กับตะเข็บชายแดนไทยพม่าเลยทีเดียวโดยจุดชมวิวดังกล่าวนั้นชื่อว่าเนินเสาธง  ซื้อที่นี่บอกได้เลยว่าบรรยากาศดีมากๆและอากาศเย็นมากเลยทีเดียว ดังนั้นหากใครอยากเห็นวิวของประเทศพม่าก็ลองมาเที่ยวที่นี่ดูนะคะ

 

สนับสนุนโดย    เว็บหวยออนไลน์ เชื่อถือได้

สอนการเตรียมกระเป๋า สำหรับทริปเดินป่า

ในวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดของที่ไปเดินป่ากันนะ สำหรับคนที่ได้เข้าป่าบ่อยๆหรือได้เข้าไปเดินป่าบ่อยๆก็น่าจะมีเซทของของตัวเองอยู่แล้วที่น่าจะรู้อยู่แล้วแหละว่าจะต้องเตรียมอะไรบ้าง แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยเดินเลยนะหรือว่าครนที่ยังสงสัยว่าทรปหนึ่งที่คนเข้าป่าไปนั้นเขาเตรียมอะไรไปบ้าง

หลักๆก็จะมีอยู่ไม่กี่อย่าง โดยในการจัดของเตรียมเดินป่านั้นเราก็จะคำนึงถึงสามอย่างหลักๆนั่นก็คือ กิน นอน เที่ยว 

ซึ่งเรื่องกินก็คือ เรื่องของอาหารการประกอบอาหารทั้งหลายเหล่ไม่ว่าจะเป็นภาชนะ เรื่องเตาเรื่องอะไรก็ตามนะคะ 

เรื่องนอนก็คือ เรื่องของความเป็นอยู่เรื่องเชลเตอร์ที่พักเนี่ยแหละ ก็เช่นพวกเต้นท์พวกถุงนอนพวกสุขภัณฑืทั้งหลายแหล่นะคะ

เรื่องเที่ยวก็คือ หมายถึงเรื่องการเดินทางระหว่างทริป ซึ่งก็จะประกอบไปด้วยกระเป๋า ขวาน อะไรทำนองนี้เป็นต้น 

ซึ่งเราก็จะมาเจาะจงดูแต่ละอย่างกันแบบละเอียดๆนิดนึงซึ่งอันดับแรกขอคุยเรื่องของการประกอบอาหารกันก่อนเลย สิ่งแรกที่เราจะต้องเตรียมไปก็คือตัวกำเนิดไฟหรือว่าความร้อน สิ่งนี้คือเรื่องเบสิคในการประกอบอาหาร ซึ่งจริงๆถ้าจะให้เราแนะนำกับคนที่อยากจะจริงจังกับการเดินทางให้คุณเลือกซื้อเตาน้ำมันไปเลยดีกว่า

เตาน้ำมันยี่ฮ้อดีๆที่เราพอจะรู้จักก็จะมีของยี่ฮ้อไพร์มัส ซึ่งอันนี้ก็ลองไปหากันดูได้หลายร้านก็มีขายกันอยู่ลองไปดูกันได้นะ แต่ที่เราจะพูดถึงก็คือเตาแกสซึ่งมันสามารถที่จะใช้ง่ายและมีน้ำหนักเบาและค่อนข้างที่จะกระทัดลัด แต่ปัญหาคือเตาแก็สพวกนี้มันจะไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ แต่ว่าเตาแก็สก็มีหลากหลายประเภทสามารถหาเลือกใช้กันก็ได้นะแต่ข้อสำคัญก็คือเลือกเตาที่เล็กและมีกระทัดลัดมากที่สุด

ต่อมาก็คือเรื่องภาชนะ โดยภาชนะที่จำเป็นในการประกอบอาหารก็คือหม้อหรือไม่ก็กระทะ ซึ่งเราขอแนะนำให้ซื้อหม้อสนาม ถามว่าใช้หม้อแบบอื่นได้หรือไม่ ตอบเลยว่าก็ได้นะเช่นหม้อของไดโซะอันละ 60 บาทโดยพวกนี้จะเป็นหม้อเล็กๆทำให้เราแบกไปได้ไม่ลำบาก แต่ว่าที่แนะนำหม้อสนามก็เพราะว่ามันมีขนาดที่ใหญ่กว่าสามารถที่จะบรรจุอาหารได้เยอะกว่าและที่สำคัญมันสามารถที่จะแยกชิ้นได้

และก็อย่าลืมว่าเราจะต้องมีคอนเทนเนอร์ที่จะเอาไว้บรรจุน้ำกินด้วย อย่างของเรานี้เป็นยี่ฮ้อสเวล โดยเราสามารถใช้ได้กับชีวิตประจำวันและก็ใช้ได้ในเวลาที่เราออกทริปนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.  Joker ฝากถอน true wallet