นาโกยะ อีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวของประเทศญี่ปุ่น

นาโกยะ เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นเมืองเอกของจังหวัดไอจิอีกด้วย เมืองนาโกยะนั้นรู้จักกันอย่างดีว่าเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งใหญ่ของญี่ปุ่น โดยคุณจะสามารถเห็นโรงงานรถยนต์ยี่ห้อดังๆ

ได้ทั้ง Toyota, Honda และ Mitsubishi รวมไปถึงสิ่งประดิษฐ์เกี่ยวกับหุ่นยนต์ นอกจากนั้นนาโกย่าก็ยังมีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ และยังได้รับการกล่าวขานด้วยว่าเป็นบ้านของเหล่าซามูไรและนินจา 

มีอาหารคาวหวานรสชาติอร่อย สถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทำให้นาโกยะกลายเป็นอีกหนึ่งเมืองที่นักท่องเที่ยวเริ่มให้ความสนใจและมาเยือนที่เมืองแห่งนี้กัน

โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปมีดังนี้ค่ะ

  1. Toyota Exhibition Hall บอกได้เลยว่าที่เมืองนาโกยะนั้นเป็นศูนย์กลางการผลิตของ Toyota จึงไม่แปลกเลยที่จะมีฮอลล์จัดแสดงโชว์รถยนต์ของ Toyota โดยมีมากมายกว่า 20 คัน รวมไปถึงมีทัวร์ชมประวัติ ความเกรียงไกร กระบวรการผลิตสินค้าของบริษัท Toyota โดยใช้เวลาชมประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ
  2. ศาลเจ้าอัตสึตะ (Atsuta-Jingu Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ของลัทธิชินโตที่มีอายุกว่า 1,900 ปี เนื่องจากมีอายุที่เก่าแก่จึงทำให้บางส่วนได้ถูกทำลายไปแต่ได้รับการบูรณะใหม่ในปี ค.ศ. 1966 ที่ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของเทพแห่งพระอาทิตย์ Amaterasu ที่มีผู้คนให้ความเคารพ โดยมีนักท่องเที่ยวกว่า 6 ล้านคนต่อปีเดินทางมาที่ศาลเจ้าเพื่อทำการสักการบูชาค่ะ
  3. สวนโนริตาเกะ (Noritake Garden) สวนสบายๆสำหรับพักผ่อนหย่อนใจของเหล่าชาวเมืองและนักท่องเที่ยว สร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1904 ภายในสวนยังมีศูนย์หัตถกรรมเซรามิคที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมกระบวนการทำเครื่องเซรามิค หรือ สามารถลงมือทำด้วยตัวเองก็ได้ หรือจะเดินเล่นชมพิพิธภัณฑ์ เลือกซื้อเครื่องเซรามิคต่างๆก็ทำได้เหมือนกันค่ะ
  4. นาโกยะทีวีทาวเวอร์ (Nagoya TV Tower) หนึ่งในแลนมาร์คสำคัญที่ใครที่มาเที่ยวที่เมืองนาโกยะแล้วก็ต้องมาที่นี่ค่ะ สร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1954 มีความสำคัญอย่างมากเพราะเป็นหอส่งสัญญาณโทรทัศน์แห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น หอแห่งนี้มีความสูงถึง 180 เมตร นอกจากนั้นภายในมีด้วยกันอยู่ 5 ชั้น โดยที่ชั้น 1 เมื่อมองขึ้นไปจะมองเห็นจุดสูงสุดของหอแห่งนี้ได้ และยังมีไฮไลท์เป็นจุดชมวิวสุดฮิตที่มีความสูงจากพื้นดินกว่า 100 เมตร สามารถชมวิวของเมืองนาโกยะได้รอบๆเมืองเลยล่ะค่ะ
  5. ปราสาทนาโกยะ (Nagoya Castle) แลนมาร์คที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งของเมืองนาโกยะ ปราสาทถูกสร้างมาตั้งแต่ช่วงสมัยปีค.ศ. 1700 แม้ว่าโครงสร้างดั้งเดิมจะมีถูกทำลายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็ได้รับการบูรณะใหม่ในปีค.ศ. 1959 จึงทำให้โครงสร้างที่เห็นในปัจจุบันอาจจะไม่ใช่แบบดั้งเดิมค่ะ แต่ก็เป็นที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งที่น่าไปอย่างมาก เพราะมีทั้งสวนหย่อมให้คุณสามารถเดินเล่นพักผ่อน พิพิธภัณฑ์ที่แสดงประวัติศาสตร์ของปราสาท รวมไปถึงจุดชมวิวธรรมชาติภายในบริเวณปราสาทอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันออนไลน์2020

ท่องเที่ยว ณ เมืองเบตง

การเดินทางในแบบฉบับที่เราไม่สามารถรู้ล้วงหน้าปะปนกับความอันตรายเล็กๆน้อยๆที่เรานั้นไม่รู้จักชื่อเปิดผนึกความรู้สึกบางด้านที่เราไม่ค่อยได้ใช้มันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวในการเดินทางเพื่อค้นหาสิ่งใหม่ๆในชีวิตของผมและเราก็เดินทางมาถึงยัง เบตง

ในขณะที่แดดแผดเผาในยามเที่ยงนั้นสิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกคือการหาที่พักเพื่อตั้งต้นในการเดินทางครั้งนี้ทำให้เรารู้จักThe train hostel Hostel ของชาวเบตงที่เพิ่ฝเปิดใหม่เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นยังคงความใหม่เป็นที่พักที่เหมาะกับนักเดินทางมือใหม่อย่างผมจริงๆ24ชั่วโมงเต็มกับการเดินทางด้วยรถไฟมาถึงยังที่พัก ณ เบตง เราพักผ่อนรีบูตตัวเองสักพักจากการเดินทางที่ยาวนานจนพระอาทิตย์เริ่มหลบมุม

เราจึงเริ่มลุกขึ้นเพื่อออกไปสัมผัส เบตง   เบตงเมืองที่คงรูปแบบของความเรียบง่ายอย่างสงบหลายคนที่เคนเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ต่างตักตวงความสวยงามของที่นี่และชาวบ้านที่น่ารักเพื่อเป็นความทรงจำที่สวยงามและเรื่องเล่าให้กับเพื่อนๆที่ยังไม่เคยได้มาสัมผัสยังสถานที่แห่งนี้และเราก็เดนทางมายังหอนาฬิกาใจกลางเมืองเบตงและได้นั่งคุยกันหน้าตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ซึ่งได้สร้างขึ้นจากคอนกรีตเสริมเหล็กถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สองตู้ไปรษณีย์ใบยักษ์นี้มีความสูงถึง290เซนติเมตรเลยทีเดียวหลังจากเดินเล่นอยู่ในเมืองเบตงสักระยะเราก็มาพบกับอุโมงค์มงคลฤทธิ์อุโมงค์ลอดภูเขาแห่งแรกของเมืองไทยสถานที่ ที่ไม่ว่าใครที่มายังเบตงก็ต่างอย่างที่จะแวะเวียนมายังอุโมงค์นี้สักครั้งในชีวิตด้วยประสบการณ์ที่แตกต่างเป็นสิ่งที่ทำให้สมองของเราทำงานอย่างมีชั้นเชิงหลายคนคงไม่เลือกที่จะจำความรู้สึกในการขับรถไปทำงานยามเช้าแต่สิ่ง ที่จะถูกบันทึกนั้นคงจะเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างที่เรานั้นต่างก็จะปรารถนาและประสบการณ์ที่ผมปรารถนา เบตง ก็มีทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว

ความสุขของชีวิตมนุษย์นั้นบางครั้งก็ดูเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับเราแต่ถ้ามีวันไหนที่เราได้เคยถามตัวเองว่าเรานั้นเป็นคนที่ปล่อยให้ความคิดไปไกลกว่าความเป็นจริงหรือเราปล่อยให้ความจริงไปไกลกว่าความคิดความสุขของคนเรานั้นถึงจะมีรู้แบบที่มันดูแตกต่างกันแต่ถ้าได้ถามตัวเองในวันที่เราอยู่เราลำพังแก่นแท้ของความเป็นจริงมันจะมีคำตอบให้กับเราเสมอและในวันที่เรานั้นเปิดใจฟังบรรยากาศในยามค่ำคืนของเบตงเป็นไปด้วยความเรียบง่ายผู้คนในยามค่ำคืนดูเหมือนจะมีมากกว่าในตอนกลางวันซะอีก

 

สนับสนุนโดย  rb88

การเดินทางท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ให้โอกาสกับตัวเอง

สำหรับเป้าหมายสำรับในการเดินทางครั้งนี้ก็ได้ถูกดำเนิดขึ้นมาทุกครั้ง

ก่อนการออกเดินทางและแต่ที่มันมีเสน่ห์ไปมากกว่าสำหรับในการเดินทางและเป้าหมายของการเดินทางและมันก็ไม่สามารถที่เรานั้นจะกำเนิดมันได้มันก็คงจะเป็นเรื่องราวในระหว่างการเดินทาง ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่มันทำให้ตัวของผมได้หลงรักในการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวไปโดยไม่รู้ตัวและในช่วงของวัยรุ่นที่ตัวผมนั้นมักจะชอบออกเดินทางท่องเที่ยวไปกับพวกเพื่อนๆแต่สิ่งที่ตัวผมเองนั้นกลัวมากที่สุดก็คือ ทริปนั้นมันจะไม่สนุก

เพราะไม่ได้เมาและเสียงดังโหวกเหวกของเพื่อนที่อยู่รอบข้างและเสียงเพลงและรวมไปถึงเสียงของตัวผมเองนั่นมันก็เป็นสิ่งที่ตัวผมเองจะต้องการในช่วงของเวลานั้นแต่ในเมื่อการเดินทางท่องเที่ยวของธรรมชาติของตัวผมนี้มันก็ได้เริ่มต้นขึ้น และสิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดเลยก็คือความเมา เพราะในความเมานั้น

มันอาจจะทำให้การเดินทางที่จะมาสัมผัสกับธรรมชาตินี้ได้สูญเปล่าไปด้วยของฤทธิ์แอลกอฮอลล์ในความสงบและเสียงที่มันไม่ได้ดังโหวกเหวกโวยวายซึ่งมันจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับตัวผมเองและกับสิ่งธรรมชาติอีกด้วยและสำหรับในการเดินทางนั้นมันก็จะเต็มไปด้วยของความสุขรวมและบวกกับความเศร้าหากเมื่อได้มีพบและก็จะต้องมีจากนั้นเป็นสิ่งพื้นฐานสำหรับในการเดินทางมันก็คงจะเหมือนกับกองไฟที่ตัวเรานั้นได้นั่งล้อมวงกันในวันค่ำคืนที่มันสวยงามและเมื่อในเส้นทางของชีวิตมันยังไม่ได้จบลง

เราก็จะมีแต่จะต้องก้าวผ่านมันต่อไปและจะหวังว่าในสักวันเราก็คงจะได้พบกันอีกครั้งและตัวผมเองก็ได้คิดว่าในการที่เราได้นึกถึงใครสักคนในวันเก่าๆเหล่านั้นมันก็จะเป็นของขวัญที่สวยงามมากที่สุดสำหรับของการดินทางในครั้งนี้ในที่เรายังได้มีโอกาสมอบให้แก่กันได้สำหรับคำว่าไม่มีการให้โอกาสนั้นมันก็อาจจะทำให้เรานั้นให้อภัยตัวเองในสิ่งที่ตัวเรานั้นไม่ได้ลงมือทำมันอย่างเต็มที่

เมื่อเราได้มีโอกาสมันจึงเป็นสิ่งที่ตัวเรานั้นจะต้องสร้างมันขึ้นและในการเดินทางของชีวิตยังคงต้องการโอกาสมันก็ขึ้นอยู่กับว่าวันนี้คุณได้ให้โอกาสกับชีวิตของตัวคุณเองบ้างหรือยังหากคุณเองยังไม่รู้ว่าตัวคุณเองนั้นจะให้โอกาสอย่างไรคุณก็ต้องมองตัวเองก่อนว่าตัวคุณนั้นจะต้องการอะไรแล้วก็เลือกทำในสิ่งที่ตัวเองนั้นต้องการ

 

สนับสนุนโดย  entaplay

เที่ยวเขาช้างเผือก

จุดหมายปลายทางจุดยอดเขาที่มันสูงที่สุดของหุบเขาช้างเผือก

มันอยู่แค่เพียงเอื้อมเมื่อได้ร็ตัวในอีกทีผมก็ได้เริ่มเดินแบบไร้ลมหายใจเพื่อที่จะต้องการเดินขึ้นไปที่ข้างบนยอดเขาตอนนี้มันก็อาจจะเป็นช่วงที่หัวใจจะทำงานได้อย่างเหนือชั้นได้ดีกว่าสมองและในเมื่อในช่วงของเวลาเหล่านี้ได้มาถึงมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งคิดอะไรอีกซึ่งคนเรานั้น

จะเดินป่าเดินเขากันไปทำไมทำไมถึงไม่เลือกที่จะอยู่บ้านพักผ่อนให้อยู่อย่างสบายและอะไรกันที่ทำให้เรานั้นยอมลำบากขึ้นมาแตกลมและได้มองข้ามความสะดวกสบายของโลกในยุคปัจจุบันเราไปได้และวิวบนยอดเขาที่สวยงามสำหรับผมแล้วมันคงจะไม่ใช่คำตอบที่มันจะถูกต้องมากที่สุด

และหลายคนที่รักในการเดินป่าเดินเขามักจะมีคำตอบให้กับสังคมอีกว่าการที่พวกเราขึ้นมาชมวิวบนจุดสุดยอดของบนเส้นทางนี้ที่พวกเรานั้นได้เดินนั้นมันก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลของนักเดินทางทั้งหลายทั้งๆที่นักเดินทางทุกคนต่างก็รู้ว่ามันังคงมีอีกหลายเหตุผลที่มันไม่สามารถที่จะสื่อสารออกมาเป็นคำพูดได้ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่มันจำเป็นจะต้องมาสัมผัสมันด้วยตัวเองและเมื่อได้เข้าสู่ยามค่ำคืนเราก็ได้เริ่มอย่างไก่ที่ได้เตรียมเอาขึ้นมา

ซึ่งโดยมีลูกลูกหาบช่วยหมักเกลือให้และภาษาที่ได้ใช้สื่อสารกันกับลูกหาบก็เป็นภาษาไทยและปนกะเหรี่ยง ซึ่งมันก็ทำให้ผมได้เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่สิ่งที่ผมนั้นได้สัมผัสได้ก็คือความใส่ใจที่มีให้กับนักท่องเที่ยวอย่างผมและแน่นอนถ้าได้ขึ้นชื่อว่าย่างไก่แล้วละก็ผมก็มักจะย่างไหม้อยู่เสมอแต่ผมก็บอกเลยว่า ณ ในเวลานั้นสำหรับไก่ย่างไหม้ๆของผมชิ้นนี้นั้นมันก็ได้หอมพุ้งไปทั่วจุดกางเต้นท์แห่งนี้เหมือนกันและในยามค่ำคืนบนที่เขาช้างเผือก

ซึ่งมันก็ได้ดำเนิดไปอย่างรวดเร็วจากในความเหนื่อยล้าที่มันได้สั่งสมมาในทั้งหมดของวันนี้และเมื่อได้เข้าสู่ยามเช้าใจกลางที่ภูเขาและสมองของผมมันก็ได้เริ่มสั่งทำการบันทึกเรื่องราวต่อๆไปและผมก็ได้พบว่าในเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันของผมนี้ที่มีความสะดวกและสบายได้วนซ้ำอยู่เป็นประจำและอยู่ในชีวิตประจำวันแต่เราไม่สามารถจดจำให้ได้เหมือนกับสามวันบนยอกภูเขาลูกนี้มันคงชี้ให้เห็นแล้วว่าในเมืองสมองยังเลือกสิ่งที่จดจำแล้วในตัวคุณล่ะ แล้วคุณล่ะเลือกที่จะจดจำอะไรบางเอาไว้ในชีวิตคุณ ให้มันเป็ฯที่หน้าจดจำตลอดไป

 

สนับสนุนโดย  9luck

เที่ยวประเทศไอซ์แลนด์

เที่ยวประเทศไอซ์แลนด์ ชมความงามของถ้ำคริสตัล   Ice Caves or Crystal Ice Cave, Iceland

             หากใครไม่กลัวหนาวเราขอแนะนำให้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศไอซ์แลนด์  ประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่สวยงามมากมายหลายแห่ง และที่ประเทศนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความงดงามติดอันดับโลก ที่เชื่อว่าหากใครได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่นี่แล้วจะต้องติดใจและอยากมาเที่ยวที่นี่ซ้ำอีกแน่นอน

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไอซ์แลนด์ที่จะแนะนำให้ไปเที่ยวในครั้งนี้นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เมื่อเราเดินเข้าไปแล้วเราจะรู้สึกว่าเราเป็นตัวละครในเทพนิยาย เพราะทีนี่มีความสวยงาม จนเราคิดว่าไม่น่าจะมีอยู่จริงในโลก

นอกจากภาพยนตร์ หรือในนวนิยายเท่านั้น และสถานที่ว่าคือ ถ้ำไอซ์เคฟ  ซึ่งเป็นถ้ำน้ำแข็งคริสตัล ที่มีขนาดใหญ่และมีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยถ้ำไอซ์เคฟ แห่งนี้ได้เป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทุกคนที่เคยเดินทางมาเที่ยวที่ถ้ำไอซ์เคฟ แห่งนี้ว่าเป็นถ้ำที่มีความสวยงาม งดงามตระการตามากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเลยทีเดียว ซึ่งถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองสตัฟคาเฟล โดยลักษณะของตัวถ้ำจะมีปากถ้ำที่มีความคล้ายกับปล่องน้ำแข็งโดยมีความสูงประมาณ 22 ฟุต

แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยรูปแบบภายในถ้ำน้ำแข็งจึงไม่ค่อยแน่นอนและมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาซึ่งจะผันแปรไปตามสภาพอากาศอยู่ตลอดเวลา ภายในถ้ำจะมีทั้งน้ำแข็งที่ห้อยย้อยลงมา ซึ่งมีลักษณะแบบเดียวกันกับหินย้อยในประเทศไทยแต่กลับกันตรงที่ที่ถ้ำแห่งน้ำเป็นน้ำแข็งหมดเท่านั้น ภายในถ้ำมีพื้นที่กว้างขวางทำให้เราไม่รู้สึกอึดอัดและบางจุดก็สามารถมองขึ้นไปด้านบนแล้วเห็นท้องฟ้าได้ด้วย ใครที่เข้าไปเที่ยวชมความงามภายในถ้ำต้องสวมเสื้อผ้าให้หนาหนาและใส่รองเท้ากันลื่น

เพราะทุกพื้นที่ภายในถ้ำจะไม่มีดินให้เดินเลยจะเป็นน้ำแข็งทั้งหมด เหมือนกับว่าเรากำลังเดินอยู่ในอาณาจักรของเจ้าหญิงเอลซ่ากันเลยทีเดียว  และหากนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากจะเข้าไปชมความงดงามภายในถ้ำน้ำแข็งจะต้องเน้นความปลอดภัยของตัวเองเป็นอย่างมาก ต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งเสื้อผ้าและรองเท้าให้ทนกับความหนาวภายในถ้ำได้

และหากจะมาเที่ยวที่ถ้ำคริสตัลแห่งนี้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการจะเข้าไปชมถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้คือ ช่วงฤดูหนาวนั่นเองเพราะว่าในช่วงฤดูหนาวนักท่องเที่ยวจะสามารถเดินชมความงดงามภายในถ้ำได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องกลัวว่าน้ำแข็งภายในถ้ำจะละลาย เช่น หากเราไปในช่วงหน้าร้อน น้ำแข็งอาจจะละลายแล้วทำให้น้ำแข็งที่ย้อยสวยงามตา ตกลงมาใส่เราได้ และทางเดินอาจจะลื่นเพราะน้ำแข็งอาจจะมีการละลาย ดังนั้นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าชมถ้ำน้ำแข็งมากที่สุดควรไปช่วงเดือนธันวาคมนั่นเอง

 

ขอบคุณเว็บ แทงบอลออนไลน์2020 ที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด

เที่ยวเกาะสวยๆที่จังหวัดพังงา

หน้าร้อนพาเที่ยวเกาะสวยๆที่จังหวัดพังงา

จังหวัดพังงา เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่ามีเกาะมากมายหลายเกาะและแต่ละเกาะก็มีความสวยงามไม่แพ้กันวันนี้จะมาพาไปเที่ยวเกาะของจังหวัดพังงาที่นักท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด 3 เกาะเด็ดๆนี้เลย

เกาะพระทอง 

ที่เกาะแห่งนี้ตรงกลางของเกาะจะเป็นทุ่งหญ้าและป่า หลายคนที่เคยมาเที่ยวที่นี่แล้วบอกว่าลักษณะของป่าจะเหมือนกับได้ไปเที่ยวป่าที่อัฟริกา จึงให้สมยานามเกาะแห่งนี้ว่า ทุ่งหญ้าซาฟารีแห่งท้องทะเลอันดามัน

ส่วนทางด้านตะวันออกจะติดกับป่าโกงกางและในทางด้านตะวันตกก็จะเป็นชายหาดสวยงามมองดูผืนทรายแล้วคลายกับผืนทรายเป็นสีทองเลยทีเดียว สำหรับที่เกาะแห่งนี้ยังคงความเป็นธรรมชาติเอาไว้มาก เพราะมีทั้งสัตว์และพืชเต็มไปหมด

โดยในฤดูวางไข่ เหล่าเต่าทั้งหลายก็จะพากันขึ้นมาวางไข่ที่นี่กันทุกปี   และที่เกาะนี้ยังมีนกตะกรุมพากันมาอาศัยอยู่ที่ไหนมากมาย โดยมีการเชื่อกันว่านกตะกรุมที่อาศัยอยู่ที่เกาะพระทองนี้เป็นนกฝูงสุดท้ายของประเทศไทยอีกด้วย

และที่นี่ยังมีกล้วยไม้พันธ์เอื้องปากแก้ว ที่เชื่อกันว่าพันธ์ที่ใกล้จะสูญพันธ์หมดไปจากโลกขึ้นเองตามธรรมชาติอยู่บนเกาะแห่งนี้ด้วย ดังนั้นทีเกาะทองแห่งนี้จึงเป็นเกาะที่ไม่เหมือนกับเกาะไหนไหน

และนักท่องเที่ยวก็สามารถตั้งแคมป์ สำหรับส่องสัตว์ในตอนกลางคืน และเล่นน้ำ ปั่นจักรยาน ในตอนกลางวัน ศึกษาวิถีชีวิตของธรรมชาติสัตว์และพืชได้อย่างเพลิดเพลิน

เกาะบอน  หรืออีกชื่อคือเกาะทะลุ 

ที่นี่เป็นเกาะที่มีขนาดเล็กจะอยู่ทางด้านเหนือของเกาะสิมิลัน แต่ถึงแม้เกาะที่นี่จะไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็มีความงามให้ควรค่าแก่การเยี่ยมชมหลายอย่าง เช่น สะพานหิน  ซึ่งสะพานที่นี่เกิดจากน้ำที่กัดเซาะหินมาเป็นเวลานาน

สำหรับที่เกาะบอนนี้ถือว่าเป็นเกาะที่ยังรักษาความเป็นธรรมชาติของท้องทะเลเอาไว้ได้ ที่นี่จะมีปลาชุกชุมมาก และเราสามารถเห็นปลาฉลามครีบขาวและปลาฉลามเสือดาว  หรือแม้แต่ฉลามวาฬ ได้ที่เกาะแห่งนี้ และที่นักท่องเที่ยวจะเห็นบ่อยมากที่สุดก็คือ ปลากระเบนราหู

เกาะไข่

ที่นี่ถึงแม้จะเป็นเกาะเล็กเล็กแต่ก็มีสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาที่นี่กันมาก นั่นก็เพราะว่าที่นี่จะมีบริเวณให้ดำน้ำดูแนวปะการังที่มีความสวยงามและยังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก

ซึ่งนอกจากเราจะดำน้ำลงไปดูปะการังแล้วที่นี่ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปลามากกว่า 20 สายพันธุ์ มีทั้งฉลามเสือดาว  ปลาการ์ตูน ปลาไหลริบบิ้น และปลาอื่นอื่นอีกมากมาย

เกาะสวยน้ำใสของทะเลอันดามัน

พาเที่ยวช่วงหน้าร้อน เกาะสวยน้ำใสของทะเลอันดามัน  

          กำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนกันแล้ว และอีกไม่กี่วันนักเรียนเกือบทุกโรงเรียนก็กำลังจะปิดเทอม ดังนั้นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลจึงเป็นทางเลือกที่ทุกคนอยากจะหาเวลามาพักผ่อนในช่วงหน้าร้อนที่กำลังจะถึงนี้

  สำหรับทะเลของประเทศไทยนั้นมีหลายที่ที่สวยสวยเยอะแยะ แต่ที่จะมาแนะนำวันนี้จะเป็นทะเลทางใต้ของประเทศไทย ที่อยู่ในแทบทะเลอันดามัน มีที่ไหนที่น่าสนใจไปบ้างมาดูกันค่ะ

จังหวัด สตูล  พาเที่ยวเกาะบูโหลน 

สำหรับที่เกาะแห่งนี้มีความงามตามธรรมชาติที่ยังไม่ได้ถูกมนุษย์เข้าไปทำลาย ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่มีทรายสีขาวสะอาดตา  และน้ำทะเลที่ใสมากจนเรามองเห็นปลาที่แหวกว่ายใต้น้ำได้เลย และที่นี่ยังคงสภาพการดำเนินชีวิตตามแบบชาวทะเลแบบดั้งเดิม

หากใครที่อยากไปเทียวในที่ที่ไม่มีคนพลุ่งพล่านแล้วละก็ที่นี่คือความเงียบสงบที่น่าเที่ยวมากและอย่าพลาดที่จะรอชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าตางหน้าอ่าว เพราะให้บรรยากาศที่โรแมนติก มากมาก

จังหวัดภูเก็ต  เกาะราชา

สำหรับที่เกาะแห่งนี้นอกจากน้ำใสทะเลสวยแล้ว ปะการังที่นี่ก็สวยงามมากมาก ที่นี้เราสามารถลงดำน้ำดูปะการังใต้น้ำได้เพราะเป็นแนวปะการังน้ำตื้น เกาะราชา หรืออีกชื่อที่ชาวบ้านมักเรียกกันว่าเกาะรายา เป็นเกาะที่ยังคงความงดงามทั้งชายหาดและแนวปะการัง และที่นี่ยังเงียบสงบเหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนเป็นอย่างมาก

จังหวัดตรัง  เกาะมุก

สำหรับเกาะแห่งนี้นั้นนักท่องเที่ยวต่างกล่าวขานว่าเกาะแห่งนี้คือ ถ้ำมรกตอันล้ำค่าแห่งท้องทะเลอันดามัน ที่นี่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะที่มีลำดับความกว้างใหญ่เป็นอันดับสามของจังหวัดตรัง โดยเกาะแห่งนี้มักจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาพักผ่อนเป็นจำนวนมาก เพราะมีหาดทรายที่สวยงาม

และบรรยากาศเงียบสงบมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก สำหรับที่เกาะมุกแห่งนี้จะมี  ถ้ำมรกต ที่เป็นถ้ำน้ำที่ไม่ใหญ่มากนัก โดยสามารถวัดความยาวของถ้ำได้ประมาณ 80 เมตร ซึ่งด้านภายในถ้ำจะมีสีเขียวมรกต งดงามแปลกตา

ทำให้ถ้ำแห่งนี้กลายเป็นจุดดึงดุดให้นักเที่ยวเดินทางมาเพื่อชมถ้ำมรกตกันมาก แต่การเข้าชมถ้ำจะสามารถเข้าไปชมความงามได้เฉพาะในช่วงที่น้ำลดเท่านั้นและการเดินทางเข้าไปตัวนักท่องเที่ยวจะต้องลอยคอในน้ำเพื่อเข้าไปในถ้ำซึ่งระหว่างทางจะมีแต่ความมืด  แต่เมื่อถึงจุดที่เป็นสีเขียวคุณก็จะต้องประทับใจกับความสวยงามของถ้ำแห่งนี้ โดยที่นี่ถือว่าเป็นอีกสถานที่ที่ Unseen

พาเที่ยวทะเลตราดที่เกาะหวาย

สำหรับหน้าร้อนใครใครก็พากันไปเที่ยวทะเลทั้งนั้นซึ่งนี่ก็ใกล้จะปิดเทอมแล้ววันนี้เราจึงพามาทำความรู้จักกับทะเลที่อยู่ใกล้กับกรุงเทพแค่นิดเดียวเผื่อว่าในช่วงปิดเทอมนี้จะพาลูกหลานมาเที่ยวพักผ่อนที่เกาะหวายแห่งนี้ที่กวายจะอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดตราด

เราสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่ด้วยการขึ้นเรือข้ามฟากตรงท่าเรือบางเบ้าซึ่งการมาเที่ยวเกาะหวายเราสามารถแวะไปเที่ยวเกาะอื่นๆได้ด้วยเช่นเกาะช้างเพราะอยู่ห่างจากเกาะไว้แค่เพียง 40 นาทีเท่านั้น

ที่เกาะหวายแห่งนี้ยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์

เราสามารถมองเห็นต้นไม้เขียวขจีริมทะเลของเกาะจะมีการปลูกต้นมะพร้าวเต็มไปหมด และหากมองลงไปที่น้ำทะเลคุณจะพบกับความงามของสีน้ำทะเลที่เป็นสีฟ้าครามและมีความใสมากๆจนเราสามารถที่จะมองเห็นปลาแหวกว่าอยู่ใต้น้ำรวมถึงปะการังและสาหร่ายทะเลได้เลย

การเดินทางจากฝั่งเราจะใช้นั่งเรือไปที่เกาะหวายโดยเมื่อมาถึงเกาะเรือจะเทียบถ้าตรงสะพานที่ขอบอกได้เลยว่า สะพานแห่งนี้เป็นจุดเช็กอินจุดแรกของการเดินทางมาเที่ยวที่เกาะหวายเลยเพราะหากใครมาเที่ยวที่นี่จะต้องถ่ายรูปกับสะพานแห่งนี้กันทุกคน

สำหรับเกาะหวายนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เน้นความเป็นส่วนตัวจะไม่ค่อยมีเสียงดังโวยวายจึงเหมาะกับคนที่ต้องการมาพักผ่อนและต้องการความสงบเป็นอย่างมากที่นี่มีกิจกรรมให้เล่น หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำลงไปดูปะการังและปลาสวยงามหรือเราอยากจะเดินเล่นบ่อยชายหาดเพื่อนเพลินก็ได้หรือเราจะลองหัดพายเรือคายัคเพื่อชมความงามของปะการัง

สำหรับใครที่มาเที่ยวที่เกาะหวายแล้วอยากดื่มด่ำกับธรรมชาติของทะเลที่นี่นานนานสามารถพักรีสอร์ทที่นี่ได้

โดยมีให้เลือกประมาณห้ารีสอร์ทส่วนราคาค่าห้องนั้นถูกมากเพียงแค่ประมาณ 500 บาทเท่านั้นเองที่นี่เราสามารถดำน้ำลงไปเล่นกับปลาและถ่ายรูปกับฝูงปลาได้รวมถึงยังสามารถลงไปชมปะการังและความสวยงามของใต้ท้องทะเลได้อีกด้วยปะการังที่นี่ยังถือว่าเป็นแหล่งปะการังที่อุดมสมบูรณ์มีสีสันสวยงาม

ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปะการังพุ่มและปะการังเขากวางและหากใครอยากมาเที่ยวชมความงามของเกาะหวายซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ปะการังสวยงามมากที่สุดให้มาเที่ยวในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคมเพราะเป็นช่วงที่เกาะหวายจะมีความงดงามมากที่สุด และหากใครยังไม่จุใจกับการชมความงามของทะเลที่นี่สามารถนั่งเรือแวะไปเที่ยวทะเลที่เกาะช้างได้            

ดอกนางพญาเสือโคร่ง

เที่ยวภูลมโล ชมความงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง

หากเอ่ยถึงดอกนางพญาเสือโคร่งบางคนคงสงสัยว่าดอกเป็นอย่างไร แต่หากบอกว่าดอกนางพญาเสื้อโคร่งนั่นได้รับฉายาว่าซากุระเมืองไทย คาดว่าทุกคนคงรู้จักกันดี ในทุกทุกปีในช่วงฤดูหนาวที่ภูลมโลแห่งนี้จะมีดอกนางพญาเสือโคร่งออกดอกสวยงามเต็มต้นบนพื้นที่เกือบหนึ่งพันไร่

ซึ่งที่ภูลมโลแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดเลย เป็นสถานทีท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันเป็นอย่างมากเพราะต้องการมาสัมผัสกับธรรมชาติที่สดชื่น อากาศเย็นสบายแถมบรรยากาศยังสวยงามเพราะจะมีดอกนางพญาเสือโคร่งปลิวตามลมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งที่นี่มีการปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งมาถึงหนึ่งแสนต้น กันเลยทีเดียว 

ก่อนที่นี่จะเป็นสวนปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งนั้น ในอดีตที่นี่จะมีการปลูกผักขาย ซึ่งชาวบ้านที่อยู่อาศัยที่นี่จะเป็นชนเขาเผ่าโม้ง ซึ่งเขาจะปลูกต้นกะหล่ำปลี แต่ต่อมาจึงได้ให้ชาวเผ่าโม้งเปลี่ยนจากการปลูกแต่ผักกะหล่ำปลีอย่างเดียวมาเป็นปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งสลับกันบ้าง

ซึ่งทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวและถ่ายรูปกับดอกไม้กันเป็นจำนวนมาก เวลาเดินแล้วมีลมพัดจะมีกลีบดอกนางพญาเสือโคร่งร่วงลงมาดูแล้วสวยงามมาก โดยปกติแล้วดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานอยู่ประมาณ 1 เดือนเต็มก็จะโรยรา

ซึ่งดอกนางพญาเสือโคร่งนี้นับได้ว่าเป็นดอกไม้ที่สวยงามมาก กลีบดอกเป็นสีชมพูเวลาบานเต็มต้นจะมองเห็นแต่ดอกไม่มีใบเลย หลายคนจึงมักเรียกดอกนางพญาเสือโคร่งว่าซากุระเมืองไทย เมื่อถึงช่วงที่ดอกไม้บานสะพรั่งนักท่องเที่ยวมักจะพากันนำเสื่อและอาหารมาปูใต้ต้นไม้และนั่งกินอาหารพร้อมกับสัมผัสกับความงามของนางพญาเสือโคร่งเหมือนไปนั่งที่ญี่ปุ่นในช่วงเทศกาลชมดอกซากุระ

และสำหรับการไปเยี่ยมชมดอกนางพญาเสือโคร่งไม่สามารถที่จะขับรถของตัวเองเข้าไปชมเองตามอำเภอใจได้นะคะ ด้วยบริเวณพื้นที่ที่กว้างใหญ่และทางค่อนข้างขรุขระบางจุดเป็นพื้นที่ลาดชันทำให้ต้องนั่งรถที่ทางเจ้าหน้าที่จัดเอาไว้บริการให้กับนักท่องเที่ยวแทนค่ะ หากนั่งรถชมรอบรอบพื้นที่ของภูลมโล มีถูกคิดค่าเหมารถ

ถ้าไปไม่เกิน 5 คนคิด 1,500 บาท แต่ถ้าเกิน 5 คนแต่ไม่เกิน 10 คนคิด ค่าเหมารถ 2,000 บาทค่ะ ราคานี้ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นการเก็บค่าเข้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเข้าไปแล้วด้วยค่ะ  และที่นี่ยังเปิดบริการให้กางเต็นท์นอนเพื่อที่จะได้นอนชมบรรยากาศยามค่ำคืนของภูลมโลด้วยนะคะ

เที่ยวตลาดน้ำกลางสวน

เที่ยวตลาดน้ำกลางสวนตลาดน้ำคลองลัดมะยม

         ที่ตลาดน้ำแห่งนี้เป็นตลาดน้ำตามแบบวิถีของชาวบ้าน สินค้าที่นำมาขายส่วนใหญ่จึงเป็นสินค้าสดสด ที่เก็บมาจากสวนของชาวบ้าน ที่นี่ถือเป็นตลาดน้ำกลางสวนอย่างแท้จริง และคนที่เปิดให้มีตลาดน้ำแห่งนี้ก็คือชาวบ้านในบริเวณตลาดน้ำนี้นี่เองที่มีการมารวมตัวกัน

เพื่อพัฒนาริมคลองลัดมะยมแห่งนี้ให้กลายเป็นตลาดน้ำที่มีชื่อเสียง จนตอนนี้ต่างก็มีนักท่องเที่ยวที่สนใจชมวิถีชีวิตของชนบทอย่างแท้จริง คอยมาเที่ยวเยี่ยมชมกันไม่ขาดสาย ที่สำคัญที่นี่มีผักและผลไม้สดสด

ที่ชาวบ้านเก็บจากสวนของตัวเองนำมาขายให้กับนักท่องเที่ยวในราคาที่ถูก สำหรับวิธีการของ ของแม่ค้าที่ตลาดน้ำแห่งนี้คือแม่ค้าจะทำการพายเรือมาขายของให้กับลูกค้า รวมถึงแถวบริเวณริมคลองก็จะมีร้านอาหารให้ลูกค้าเดินซื้อของมากมายหลายร้านเมื่อซื้อเสร็จก็จะมีที่นั่งที่เตรียมเอาไว้สำหรับนักท่องเที่ยวได้นั่งทาน

พร้อมกับชมความงดงามของธรรมชาติริมคลองและดูแม่ค้าขายของอย่างเพลิดเพลิน และเมื่อเราเดินเลยออกมานิดหน่อยห่างจากริมคลองมาแล้วบริเวณนี้ชาวบ้านจะเปิดร้านขายต้นไม้ พันธ์ไม้ขนาดเล็ก 

และสำหรับใครที่อยากจะมาเที่ยวที่ตลาดน้ำแห่งนี้ ตลาดจะเปิดเฉพาะเสาร์ และวันอาทิตย์ เท่านั้นซึ่งตลาดจะเปิดบริการขายของ เวลา 8.00-15.00 ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม จะอยู่ในเขตตลิ่งชั้น ตลาดนี้ที่นี่เปิดมาตั้งแต่ ปี 2547

แล้วและที่ต้องเรียกชื่อว่าตลาดน้ำคลองลัดมะยมก็เพราะว่า เป็นตลาดน้ำที่ใช้คลองเล็กที่แยกมาจากคลองใหญ่ของคลองบางละมาดและคลองบางขุนพรม ซึ่งที่นี่ก่อนจะมาเป็นตลาดน้ำ เดิมทีเป็นสวนและไร่นาของชาวบ้านในแถบนี้

สำหรับที่ตลาดน้ำแห่งนี้จะมีกับข้าวหลายร้านที่อร่อยมากมาก ยกตัวอย่างเช่น ร้านพิสมัยปลาเผา ใบเฟินซีฟู๊ดซึ่งร้านนี้จะเน้นขายอาหารทะเล มีทั้งกุ้งและหอยตัวใหญ่ใหญ่ และปูตัวใหญ่ มีร้านไก่ย่าง และร้านค้าที่นี่จะไม่ซ้ำกัน

ที่นี่เป็นตลาดน้ำขนาดกลาง และผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน หนาแน่นมากนัก โดยเฉพาะส้มตำสมุนไพร เป็นร้านอาหารที่ขึ้นชื่อของตลาดน้ำแห่งนี้เลยทีเดียว และที่ขาดไม่ได้คือไอศกรีมลุงชวน ซึ่งนอกจากจะเปิดขายไอศกรีมแล้วลุงชวนยังเป็นบุคคลสำคัญในการก่อตั้งตลาดน้ำแห่งนี้

ตลาดน้ำแห่งนี้ถือเป็นตลาดน้ำที่มีอายุเก่าแก่มายาวนานหลายปี ผู้คนมักจะชวนกันมาหาของกินและซื้อกลับบ้าน เนื่องจากสินค้าที่นำมาขายเป็นของสดและใหม่ หากวันหยุดไม่รู้จะเดินทางไปเที่ยวไหนอย่าลืมแวะมาเยี่ยมชมตลาดน้ำแห่งนี้กันนะคะ